กทม. 18 ก.ย.-พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปีนี้รัฐบาลส่งเสริมให้ผู้พิการได้รับการจ้างงานแล้ว 34,601 ราย ทั้งในหน่วยงานภาครัฐ และสถานประกอบการเอกชน รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่นายจ้างในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการ โดยมีสถานประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว 11,443 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 97.07 ของสถานประกอบการทั้งหมดที่มีลูกจ้าง 100 คนขึ้นไปโดยสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 100 คนขึ้นไปจะต้องจ้างลูกจ้างในอัตราส่วนลูกจ้าง 100 คนต่อผู้พิการ 1 คน เศษของลูกจ้าง 100 คน หากเกิน 50 คนจะต้องรับผู้พิการเพิ่มอีก 1 คน ซึ่งนายจ้างสามารถนำค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้พิการ และการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการ ไปหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่าของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้ของสถานประกอบการ ส่วนสถานประกอบการที่ไม่รับผู้พิการเข้าทำงานตามเงื่อนไขดังกล่าว จะต้องส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมคนพิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นรายปี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังมีโครงการส่งเสริมการรวมกลุ่มของคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการเพื่อประกอบอาชีพ จำนวน 120 กลุ่ม กลุ่มละ 50,000 บาท โดยจะต้องมีสมาชิก 20 คนขึ้นไป ประกอบอาชีพในพื้นที่มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน มีแผนการดำเนินงานต่อไปเป็นรูปธรรมชัดเจน และได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และทางจังหวัด ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์แล้ว 3,015 คน
พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พัฒนาระบบฐานข้อมูลคนพิการให้ครบถ้วนและเชื่อมโยงกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อความสะดวกในการจัดสวัสดิการและการพัฒนาอาชีพแก่คนพิการอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan)
“นายกฯ ฝากถึงผู้ประกอบการให้เปิดใจค้นหาศักยภาพของลูกจ้างพิการ ซึ่งไม่แตกต่างกับคนทั่วไปที่มีข้อจำกัด มีสิ่งที่ทำไม่ได้ และมีสิ่งที่ทำได้เป็นอย่างดี จะช่วยให้ได้กำลังสำคัญในการขับเคลื่อนงานของสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลได้จัดระบบให้ความช่วยเหลือแก่ทั้งนายจ้างที่ประสบปัญหาในการจ้างงานคนพิการ และคนพิการที่ประสบปัญหาการทำงานในทุกกรณี สามารถขอความช่วยเหลือจากนักสังคมสงเคราะห์ได้”พลตรีสรรเสริญ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้พิการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและแสดงความประสงค์เพื่อหางานทำ ได้ที่ สำนักงานจัดหางาน ศูนย์บริการคนพิการ ทุกจังหวัด และในเว็บไซต์ตลาดงานคนพิการ.-สำนักข่าวไทย