ผู้การสุราษฎร์ฯ ให้ฝ่าย กม.ตรวจสอบที่มาข่าวข่มขืนสาวอังกฤษบนเกาะเต่า

สุราษฎร์ธานี 27 ส.ค.-ผู้การสุราษฎร์ฯ ลงพื้นที่เกาะเต่าเบื้องต้นไม่พบเหตุข่มขืนตามที่นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษแจ้ง เร่งให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบที่มาของข่าว


พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเพิ่มเติม โดยเร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้รายงานผลการตรวจสอบให้ทราบภายใน 7 วัน เพื่อความกระจ่าง และให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากปรากฏข้อเท็จจริงในภายหลังว่า ตำรวจพื้นที่ไม่รับแจ้งความตามที่ผู้เสียหายอ้าง จะถูกดำเนินการทางปกครองทันที ขณะเดียวกันก็ต้องมีการตรวจสอบเพจ หรือเว็บไซต์ ที่มีการเผยแพร่ข่าวนี้ ว่ามีความน่าเชื่อถือเพียงใด หากพบมีเจตนา หรือมีจุดประสงค์ไม่หวังดี ต้องพิจารณาต่อไป

ขณะที่พลตำรวจตรีอภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่เกาะเต่า เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี พบว่านักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรเกาะพะงัน ว่า ทรัพย์สินสูญหายบนเกาะเต่า พนักงานสอบสวน จึงให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเกาะเต่า เพราะเป็นพื้นที่เกิดเหตุ แต่ทั้ง 2 คน อ้างไม่สะดวก ตำรวจจึงรับแจ้งความไว้ โดยนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนระบุว่าจะนำไปยื่นกับบริษัทประกัน และไม่ได้แจ้ง หรือ ระบุว่าโดนข่มขืนหรือถูกทำร้ายร่างกาย ตำรวจจึงรับแจ้งความของหายตามที่ผู้เสียหายต้องการ จากนั้นผู้เสียหายจึงเดินทางกลับประเทศ


จากการตรวจสอบของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พบว่านักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ เดินทางเข้าไทยทางสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน กำหนดอยู่ในไทยถึงวันที่ 11 สิงหาคม และเดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม เบื้องต้นพลตำรวจตรีอภิชาติ ยืนยันไม่พบเหตุการณ์ตามที่ผู้เสียหายแจ้ง กำลังให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบที่มาของข่าวว่า เข้าข่ายนำข้อความอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือไม่

สำหรับนักท่องเที่ยวสาววัย 19 ปี เดินทางไปท่องเที่ยวเกาะเต่าเมื่อเดือนมิถุนายน คืนเกิดเหตุหญิงสาวดื่มกับเพื่อนชาวอังกฤษที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนจะรู้สึกตัวอีกทีตอนเช้า ปรากฏว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าอยู่บนหาดทรายรี โดยมีชายคนหนึ่งนอนอยู่ด้วยก่อนหลบหนีไป ผู้เสียหายอ้างว่าไปแจ้งความกับตำรวจเกาะพะงันว่า ถูกกระทำชำเรา แต่ตำรวจกลับเพิกเฉย และลงบันทึกเพียงว่าเป็นเหตุลักทรัพย์ เนื่องจากโทรศัพท์มือถือ และเงินสดประมาณ 3,000 บาท ถูกขโมยไป ก่อนผู้เสียหายจะเดินทางกลับอังกฤษ  .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก