สุราษฎร์ธานี 27 ส.ค.- “ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ฯ-ผบ.บชร.4” ซักถามเจ้าของโฮสเทลที่เกาะเต่าหาข้อเท็จจริงกรณีข่าวนักท่องเที่ยวสาวต่างชาติอ้างถูกวางยาและข่มขืน พร้อมตั้งชุดสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง หากไม่พบมูลความจริง จะรายงานฝ่ายกฎหมาย สตช.ให้ดำเนินการ
เมื่อเวลา 09.00 น. (27 ส.ค.) พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบที่ 4 (ผบ.บชร.4) กองทัพภาค 4 ในฐานะหัวหน้ากองกำลังรักษาความสงบส่วนหน้า กองทัพภาค 4 ลงพื้นที่ อ.เกาะพะงัน ร่วมสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง โดยเชิญ น.ส.ภัทรา (สงวนนามสกุล) เจ้าของที่พักโฮสเทลแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 1 ต.เกาะเต่า ที่นักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติ อายุ 19 ปี เข้ามาพักพร้อมเพื่อนชายอีกคน ชื่อมาร์ติน ขณะมาเที่ยวในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 21-26 มิ.ย.ที่ผ่านมา
น.ส. ภัทรา เล่าว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. โฮสเทลจัดปาร์ตี้ให้กับแขกที่เข้าพักที่ผับแห่งหนึ่ง แต่พบว่านักท่องเที่ยวรายนี้กับเพื่อนอีก 3 คน ไม่ไปตามนัด ทางโฮสเทลก็ไม่ได้แปลกใจ เนื่องจากตลอดเวลาที่พักอยู่มักจะออกไปเที่ยวดื่มสังสรรกับเพื่อนทุกคืน กระทั่งรุ่งเช้าก่อนเช็คเอาท์นักท่องเที่ยวรายนี้กับมาร์ตินมาแจ้งว่าเมื่อคืนที่ผ่านมามีอาการคล้ายถูกวางยาในเครื่องดื่มและถูกข่มขืน รวมทั้งทรัพย์สินเงินสดและโทรศัพท์มือถือถูกขโมยไป เหตุเกิดที่ชายหาดห่างจากผับประมาณ 500 เมตร ตนจึงแนะนำให้ไปแจ้งความ แต่ทั้ง 2 ไม่ไป อ้างว่าต้องรีบเดินทางไป อ.เกาะพะงัน แม้จะพยายามหลายครั้งเพื่อให้ทั้งสองรีบไปดำเนินการ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดตามเรื่องอีกเลย เนื่องจากไม่แน่ใจว่าได้เกิดเหตุจริงหรือไม่ ต่อมาวันที่ 4 ก.ค. นายมาร์ตินได้มาหาตน และปรึกษาว่ากรณีของเพื่อนสาวสามารถแจ้งความได้หรือไม่ ตนจึงได้พานายมาร์ตินไปพบพนักงานสอบสวน สภ.เกาะเต่า แต่ไม่สามารถแจ้งความได้ เนื่องจากเจ้าตัวผู้เสียหายได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว และตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามสถานที่ที่นายมาตินกล่าวอ้าง แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ ภาพวิดีโอถูกอัดทับไปแล้ว เนื่องจากเมมโมรี่การ์ดสามารถบันทึกเหตุการณ์ได้เพียง 7 วันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า ได้แต่งตั้ง พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นหัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำการสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดว่า มีเหตุกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หากเกิดขึ้นจริง เป็นความผิดส่วนตัว หรืออาญาแผ่นดิน เพื่อนำเสนอไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งไปยังผู้เสียหายต่อไป แต่หากพบว่าไม่มีมูลความจริงจะรวมรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอไปยังฝ่ายกฏหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการต่อไป.-สำนักข่าวไทย