กทม.27 ส.ค.- นำ 17 คนไทยถูกจับร่วมกับชาวไต้หวันที่ประเทศเวียดนาม กลับมาดำเนินคดี เร่งสืบสวนขยายผลกวาดล้างให้สิ้นซาก
พนักงานสืบสวนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สอบปากคำผู้ต้องหาคอลเซ็นเตอร์ 19 คน ทั้งหมดถูกตำรวจไทยร่วมกับตำรวจเวียดนาม เข้าจับกุมที่คอนโดมิเนียมกลางเมืองโฮจิมินห์ เวียดนาม เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา แล้วคุมตัวกลับประเทศไทย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงว่าผลการจับกุมเกิดขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดมีการอ้างชื่อตำรวจเพื่อให้เกรงกลัว ชี้ให้เห็นว่าที่ผ่านมาการปราบปรามประสบความสำเร็จ ปัจจุบันไม่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการแล้ว
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 19 คน เป็นคนไทย 17 คน มีชาวไต้หวัน 2 คน เป็นผู้บงการซึ่งถูกผลักดันกลับไปดำเนินคดีที่ไต้หวันแล้ว แก๊งนี้ตั้งฐานในเวียดนาม โทรศัพท์หลอกเหยื่อคนไทยมา 2 เดือน ตำรวจสืบสวนพบเบาะแสหลังผู้เสียหายโทรศัพท์ร้องเรียน จึงประสานตำรวจเวียดนามเข้าบุกค้นจับกุมในคอนโดฯ พบหลักฐานสมุดบัญชีธนาคาร และรายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐของไทยจำนวนมากเพื่อใช้อ้างในการหลอกลวงผู้เสียหาย รวมถึงอุปกรณ์สื่อสาร คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ซิมโทรศัพท์พร้อมใช้งานจำนวนมาก
พฤติการณ์ยังใช้รูปแบบเดิมคือโทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหายที่เป็นคนไทย มีการอ้างเป็นตำรวจ ให้ผู้เสียเกรงกลัว สอบประวัติผู้ต้องหาบางคนเคยกระทำความผิดร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาก่อนหน้านี้ มีฐานปฏิบัติการทั้งในฟิลิปปินส์ และกัมพูชา ทั้ง 17 คน ถูกตั้ง 3 ข้อหาคือฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตาม พ.ร.บ.มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และความผิดฐานฟอกเงิน
ตำรวจให้ข้อมูลเพิ่มว่า นอกจากผู้ต้องหาคนไทย 17 คน มี 7 คนเดินทางกลับมาก่อน ซึ่งถือมีความผิด ทั้งนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผล หาผู้เกี่ยวข้องในการเดินทางไปพำนักในเวียดนามของกลุ่มผู้ต้องหา หากพบมีนายหน้าจัดหาคนไทยไปทำงานร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะดำเนินการตามกฎหมายทันที.-สำนักข่าวไทย