ศุลกากรเตรียมยกเลิกเกณฑ์ระงับคดี คุมเข้มนำเข้าสำแดงเท็จ หนีภาษี สินค้าออนไลน์

ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ 23 ส.ค.-ศุลกากรเตรียมยกเลิกเกณฑ์ระงับคดี กระทำผิดซ้ำ 2 ส่งฟ้องศาล คุมเข้มนำเข้าสำแดงเท็จ หนีภาษี  สินค้าออนไลน์ จับมือหลายหน่วยงานแชร์ เชื่อมโยงฐานข้อมูลบริการออนไลน์ 


นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวระหว่างร่วมงานสัมมนา “Digital Customs 2018” ว่า ในวันที่ 1 กันยายนนี้ กรมศุลกากร เตรียมเริ่มใช้ระบบออนไลน์ในพิธีการศุลกากรกับทุกหน่วยงาน เพื่อให้บริการนำเข้า ส่งออกสินค้า ด้วยการจัดทำฐานข้อมูลโยงกับหลายหน่วยงาน โดยเตรียมออกประกาศยกเลิกเกณฑ์ระงับคดีในเร็วๆนี้ เพื่อเปิดโอกาสทำผิดได้เพียงครั้งแรก  หากกระทำผิดซ้ำลักลอบหนีภาษีครั้งที่ 2 อีก จะทำสำนวนส่งฟ้องศาลพิจารณาความผิดทางอาญา ปรับ 2-4 เท่าของราคาสินค้า และโทษอื่นๆ โดยไม่มีการเจรจาผ่อนปรนเรื่องระงับคดีในชั้นของศุลกากร 

ทั้งนี้ยอมรับว่าขณะนี้การสั่งซื้อสินค้า E-Commerce แบบสั่งพรีออร์เดอร์เติบโตสูงขึ้น  โดยปัจจุบันนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศจัดส่งทางไปรษณีย์ไม่เกิน 1,500 บาทต่อชิ้นไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม  ส่วนสินค้าที่ราคาเกินกว่า 1,500 บาท และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตั้งแต่เริ่มจัดเก็บภาษี มียอดรายได้ภาษีประมาณ 5 ล้านบาทต่อเดือน  และเนื่องจากเริ่มมีสินค้าเข้ามาที่ไปรษณีย์หลักสี่และไปรษณีย์หัวลำโพงมากขึ้น  เพื่อลดความแออัดการเดินทางไปเสียภาษีที่ไปรษณีย์ จึงใช้ระบบออนไลน์แจ้งยอดเสียภาษีไปยังที่อยู่ และให้ผู้สั่งซื้อจ่ายภาษีผ่าน E-Payment ให้กับกรมศุลกากร  


นอกจากนี้ ขณะนี้ตรวจพบว่ามีการซื้อขายกัญชาในสหรัฐ เป็นแบบเสรี จึงแพร่กระจายเข้ามาในเมืองไทยมากขึ้น ทั้งกัญชาจากสหรัฐ ยาไอซ์จากสหภาพยุโรป นับร้อยชิ้นต่อเดือน จึงได้ปรับใช้ระบบออนไลน์ ส่งข้อมูลให้ตรวจพิกัดสินค้า และส่งใบเรียกเก็บภาษีไปยังบ้านอยู่อาศัย และเสียภาษีผ่าน E-Payment มายังกรมศุลกากร โดยไม่ต้องเดินทางไปยังไปรษณีย์หลักสี่ 

นอกจากนี้ยังตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวศุลกากร  เพื่อบริหารความเสี่ยง ติดตามดูการสำแดงสินค้าเท็จ การลักลอบหนี้ภาษีผ่านหลายช่อง เช่น ติดตามการเดินทางในช่วง 180 วัน หากเดินทางเข้าออกต่างประเทศถึง 140 วันไปยังประเทศกลุ่มเป้าหมายที่จับตา จะต้องขอตรวจดูสินค้านำเข้าติดตัวเข้ามาผ่านสนามบิน โดยไม่ต้องเสียเวลาติดตามผู้โดยสารจำนวนมาก กลุ่มที่ขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ จะส่งรายชื่อไปยังด่านศุลกากรทุกแห่งทั่วประเทศ  


กรมศุลกากรยังเดินหน้าเชื่อมโยงข้อมูลกับหลายหน่วยงานตามนโยบาย NSW (National Single Window)  เตรียมเริ่มใช้กับทุกหน่วยงานรัฐ ที่ต้องออกใบอนุญาตนำเข้า ส่งออกสินค้า เพื่อลดปัญหาการใช้เอกสารซ้ำซ้อน จึงกำหนดให้ผู้ส่งออก นำเข้า แจ้งเอกสารหลักที่กรมศุลกากร จากนั้นจะแชร์ข้อมูลดังกล่าวเชื่อมไปยังทุกหน่วยงาน นำร่องสินค้าวัตถุอันตราย สินค้าเกษตร เป็นสินค้าที่ต้องขอใบอนุญาต อย. และด้านเกษตร  ขณะนี้เชื่อมข้อมูลแล้ว 8 หน่วยงาน  จากนั้นจะเร่ิมทะยอยใช้เต็มรูปแบบในปี 62 ครบทุกหน่วยงาน 33 แห่ง  เพื่ออำนวยความสะดวกนำเข้าส่งออกสินค้า ลดการใช้เอกสารซ้ำซ้อน No Coppy เพื่อใช้เอกสารสำหรับออกใบอนุญาติเฉพาะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

สำหรับการจัดสัมมนาครั้งนี้ต้องการทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการส่งออก นำเข้า เกี่ยวกับแนวทางให้บริการออนไลน์เพิ่มขึ้น ประกอบด้วยด้านการให้บริการยื่นคำขอลงทะเบียนเป็นผู้ปฏิบัติ พิธีการศุลกากรหรือปรับปรุงแก้ไขข้อมูลทะเบียนผู้ปฏิบัติพิธีการศุลกากรของผู้ประกอบการนำเข้า/ส่งออก ผ่านอินเตอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยระบบการลงทะเบียนผู้มาติดต่อออนไลน์ (e-Register) และการยกเลิกสำเนาเอกสารราชการ (Zero Copy) ประชาชนสามารถใช้บัตรประจำตัวประชาชนเพียงใบเดียวในการติดต่อราชการ, ด้านการให้บริการช่องทางการชำระเงินผ่านธนาคารหรือตัวแทนรับชำระเงิน ด้วยระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยผ่านช่องทางการให้บริการของธนาคาร/ตัวแทนรับชำระเงิน (e-Bill Payment) โดยสามารถชำระภาษีอากรและภาษีอื่น ๆ เช่น ใบขนสินค้า, ใบสั่งเก็บเงิน และใบแจ้งหนี้ค่าธรรมเนียมในการดำเนินการพิธีการทางศุลกากร การบริการตรวจสอบและติดตามความเคลื่อนไหวของไปรษณียภัณฑ์ (Postal Parcel) และบริการตรวจสอบข้อมูลใบขนสินค้า สำหรับหน่วยงานผู้ออกใบอนุญาต (OGA Declaration) ด้วยระบบ e-Tracking -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ทำลายระเบิด M33 กลางบ้าน

ตรัง 20 ส.ค.- คนร้ายลอบขว้างระเบิด M33 ใส่บ้านในพื้นที่ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ระเบิดทำงาน 1 ลูก อีก 1 ลูกไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ทำลายเสียงดังสนั่น เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย-สอบปมเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD จังหวัดตรัง ได้ทำการเก็บกู้และทำลายระเบิด M33 ที่ยังไม่ทำงาน ระหว่างทำลายเกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ยางรถยนต์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันแรงระเบิดปลิวลอยขึ้นฟ้า ควันฟุ้งกระจายไปทั่ว สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านยูงงาม ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบขว้างระเบิดเข้าใส่บ้านหลังหนึ่ง ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ เจ้าของบ้านเล่าว่าช่วงเกิดเหตุคนในบ้านกำลังนอนหลับ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง แต่ไม่กล้าออกมาดู กระทั่งเช้าพบหลุมระเบิดขนาดกว้างราว 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต อยู่ข้างบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทราบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกลอบยิงมาแล้วหลายครั้ง จนเจ้าของบ้านต้องสร้างกำแพงสูงเพื่อป้องกัน แต่ล่าสุดกลับถูกลอบขว้างระเบิดแบบลูกเกลี้ยง […]

ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ

สมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ  กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล  ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]