สำนักงานกกต.22 ส.ค.-เลขาฯกกต.ประชุมเตรียมความพร้อมแนวทางดำเนินการหลังพ.ร.ป.ส.ส.บังคับใช้ คุมเข้มหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดีย เตือนให้ข้อมูลเท็จเจอข้อหาทั้งอาญาและแพ่ง
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการยกร่างระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะกำหนดกรอบการควบคุมการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียในภาพรวม เช่น ลักษณะใดจะเข้าข่ายกระทำความผิด การคิดค่าใช้จ่าย โดยในช่วงต้นนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต.เข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมด้วย
ภายหลังการประชุมเกือบ 3 ชั่วโมง เลขาธิการกกต. เปิดเผยว่า จากหลังพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ประกาศใช้ สามารถออกระเบียบรองรับได้ทันที ซึ่งเนื้อหาโดยรวมจะกำหนดขอบเขตการหาเสียงของพรรคการเมือง ผู้สมัครว่าจะดำเนินการในลักษณะใดได้บ้าง และต้องแจ้งต่อกกต.ล่วงหน้า ต้องรับผิดชอบเนื้อหาไม่ให้เป็นการใส่ร้าย เพราะจะเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายซึ่งมีโทษค่อนข้างรุนแรง แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมกรณีการให้ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียโดยนำข้อเท็จจริงมาเผยแพร่เพื่อให้เกิดความได้เปรียบ เสียเปรียบ
“เว้นแต่จะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ที่ได้รับความเสียหายสามารถร้องเรียนมายังกกต.ได้ จากนั้นกกต.จะแจ้งเจ้าของข้อความให้ลบภายใน 1 วัน หากไม่ปฏิบัติตาม กกต.จะลบข้อความเอง อย่างไรก็ตาม แม้จะลบข้อความไปแล้ว ไม่ได้หมายความว่าความผิดจะหายไปด้วย เพราะถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ต้องรับผิดทางอาญา และหากมีผลทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตจนการเลือกตั้งในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งต้องเสียไปก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นด้วย” เลขาธิการกกต. กล่าว
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ในช่วงที่จะเลือกตั้ง จะตั้งวอร์รูมพิเศษซึ่งได้รับความร่วมมือจากกระทรวงดิจิทัลฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งตัวแทนมามอนิเตอร์เหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย แต่แม้ยังไม่ตั้งวอร์รูม ข้อมูลที่ส่งผ่านทางอิเล็คทรอนิกส์จะถูกบันทึกเก็บไว้เป็นข้อมูลด้วยและสามารถค้นหาต้นตอผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลได้ ส่วนค่าใช้จ่ายการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดีย ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะคิดคำนวณ กกต.จึงมอบให้นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต.ที่รับผิดชอบงานด้านพรรคการเมืองพิจารณารูปแบบต่อไป
ด้านนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. ซึ่งเข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุม ได้มอบนโยบายระหว่างการประชุม โดยแสดงความเป็นห่วงว่าในอนาคตการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียจะมีบทบาทมากขึ้น จึงหวังให้คณะกรรมการชุดนี้ดูแลอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย
