“รุ่งโรจน์”ไม่ปกป้องอดีตผบก.จว.เลยพร้อมลูกน้องทุจริตโครงการรวมหนี้

“รุ่งโรจน์”ไม่ปกป้องอดีตผบก.จว.เลยพร้อมลูกน้องทุจริตโครงการรวมหนี้

กรุงเทพฯ 20 ส.ค.- รอง ผบ.ตร. ยืนยันคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ไม่ปกป้องอดีต ผบก.ภ.จว.เลย คดีทุจริตโครงการรวมหนี้ ลงนามคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว


พลตำรวจเอกรุ่งโรจน์ แสงคล้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีทุจริตโครงการรวมหนี้และบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย ซึ่งมีนายตำรวจระดับผู้บังคับการและผู้กำกับการในขณะนั้นถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องว่า ล่าสุดได้ลงนามคำสั่งให้พลตำรวจตรีสุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย และพันตำรวจเอกเฉลิม ยอดปทุม ผู้กำกับการอำนวยการ ตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ลูกน้องคนสนิทที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันก่อเหตุ ให้ออกจากราชการไว้ก่อนตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อความสะดวกในการสืบสวนทางคดีและทางวินัย พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หลังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ดำเนินคดีอาญา และพลตำรวจตรีสุทิพย์ได้เข้ารายงานตัวต้องคดีอาญาที่สำนักงานกำลังพลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

พลตำรวจเอกรุ่งโรจน์ ระบุว่า การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ได้กำหนดกรอบระยะเวลาไม่เกิน 270 วัน คณะกรรมการก็จะมีมติ ซึ่งโทษจะมีทั้งปลดออก หรือให้ออกจากราชการ แต่ถ้ามติลงความเห็นว่าไม่มีความผิด ผู้ถูกกล่าวหาสามารถร้องขอกลับเข้ารับราชการได้เหมือนเดิม ส่วนคดีอาญา ทางพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ก็ดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด แต่ก็รับทราบข่าวว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนในการดำเนินคดีอาญาในข้อหาฉ้อโกงประชาชน 


ทั้งนี้ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนการเยียวยาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะมีเพียงการดูแลสิทธิตามสมควร ซึ่งผู้เสียหายจะต้องไปฟ้องแพ่งดำเนินคดีกันเอง แต่ก็ยอมรับว่าเห็นใจผู้ใต้บังคับบัญชา จึงสั่งการให้มีการสร้างรายได้และอาชีพที่เหมาะสมกับข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนเอาผิดทั้งทางอาญาและทางวินัยไปตามขั้นตอนของกฎหมาย รวมทั้งสั่งการให้ทุกกองบัญชาการตำรวจทั่วประเทศ ตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ให้เกิดกรณีลักษณะนี้ขึ้นอีก

สำหรับคดีนี้มีผู้เสียหายเป็นข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดเลย 192 นาย ถูกพลตำรวจตรีสุทิพย์ ชักชวนให้ลงทุนในโครงการรวมหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย เพื่อเป็นกองทุนบริหารจัดการหนี้ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือชำระหนี้ให้กับสมาชิก แต่ทางโครงการกลับไม่เคยได้นำเงินไปใช้หนี้ให้สมาชิกจริง ทำให้สมาชิกซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจหลายนายถูกเจ้าหนี้ตามทวงหนี้ ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก มูลค่าความเสียหายกว่า 229 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว