แจ้ง 4 ข้อหา-ให้ออกราชการไว้ก่อน ผอ.โชว์ปืน

สงขลา 10 ก.พ. – ผอ.โรงเรียนเทพา เข้ารับทราบข้อกล่าวหาและได้รับการประกันตัว ขณะที่ ผอ. ให้สัมภาษณ์เปิดใจยืนยันในความบริสุทธิ์ โดยทางศึกษาธิการจังหวัดมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน


มีผลสอบออกมาแล้วสำหรับกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนเทพา จังหวัดสงขลา ที่ถูกกล่าวหามีความสัมพันธ์กับนักเรียนหญิง ม.3 จนเกิดความเครียดแล้วชักปืนออกมาโชว์หน้าเสาธง จนนักเรียนวิ่งหนีกระเจิง

หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีการตั้งกรรมการสอบวินัยผู้อำนวยการโรงเรียนเทพา ที่ก่อเหตุโชว์อาวุธปืนหน้าเสาธงจากปัญหาส่วนตัวที่ถูกกล่าวหามีความสัมพันธ์กับนักเรียนหญิง ม.3 หลังถูกผู้ปกครองนักเรียนเข้าแจ้งความ


ล่าสุดนายศังกร รักชูชื่น ผู้อำนวยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 เปิดเผยผลสอบวินัย เบื้องต้นพบว่ามีมูลกระทำความผิดร้ายแรง และได้ส่งเรื่องไปยังศึกษาธิการจังหวัดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางศึกษาธิการจังหวัดได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน และการที่ผู้อำนวยการโรงเรียนได้ยื่นใบลาออกไปก่อนหน้านี้ก็ไม่มีผล หลังจากนี้ทางศึกษาธิการจังหวัดสงขลาจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกรอบ เพื่อรับฟังข้อมูลทั้งจากผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้เสียหายให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน หากสุดท้ายแล้วพบว่ามีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรงจริงก็จะมีความผิดสูงสุดถึงขั้นไล่ออกและให้ออก โดยโทษไล่ออกเป็นโทษทางวินัยสูงสุดไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญ ส่วนโทษให้ออกยังคงได้รับบำเหน็จบำนาญ

นายศังกร ยืนยันว่า การสอบสวนทางวินัยกรณีนี้เป็นไปตามขั้นตอนของกระทรวงศึกษาธิการที่มีการตั้งศูนย์ป้องกันการละเมิดนักเรียน ซึ่งเป็นมาตรการปราบปราม คือเริ่มจากให้ย้ายมาประจำที่เขต ตั้งกรรมการสอบสวน แล้วส่งผลสอบให้ศึกษาธิการจังหวัดพิจารณาข้อเท็จจริงและออกคำสั่งลงโทษทางวินัย

ส่วนความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม ผู้กำกับการ สภ.เทพา บอกว่า ล่าสุดมีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้อำนวยการโรงเรียนเพิ่มเติม รวมเป็น 4 ข้อหา คือ กระทำชำเราเด็ก พรากผู้เยาว์ พกพาอาวุธปืน และข้อหาล่าสุดคือ กระทำอนาจาร โดยทีมสหวิชาชีพได้สอบปากคำนักเรียนผู้เสียหายเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา หรือเจ้าตัวจะเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเอง


ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพาได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เทพา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาทั้ง 4 ข้อหาแล้ว โดยเจ้าตัวได้ใช้ตำแหน่งทางราชการของบุคคลอื่นค้ำประกันแทนเงินสด ซึ่งมีวงเงินค้ำประกัน 500,000 บาท ขอประกันตัว

หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพาได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีที่ถูกแม่เด็กเข้าแจ้งความนั้นตนไม่ทราบ เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ตนก็ต้องปกป้องสิทธิของตัวเอง เพื่อให้ตัวเองได้รับความยุติธรรม แต่ถ้าข่าวที่ออกมาทำให้เขาได้รับความเสียหายตนก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ แต่อยากให้สังคมมีสติในการบริโภคข่าวสาร ควรให้ได้รายละเอียดครบทุกด้านว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ก่อนที่จะตัดสินว่าใครผิด

ที่ผ่านมาตลอด 30 ปี ของการรับราชการ ตนทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถมาตลอด ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย และคิดเสมอว่าลูกๆ นักเรียนเป็นแก้วตาดวงใจเหมือนลูกตัวเอง และการที่ตนยื่นใบลาออกไปก่อนหน้านี้เพราะมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตนเสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตนเป็นคนมีระเบียบวินัย เป็นคนดีของสังคม และรับไม่ได้กับเรื่องนี้ และพร้อมที่จะกลับมาเป็นประชาชนเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ส่วนกรณีที่ถูกมองว่าชักปืนหน้าเสาธง ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพา กล่าวว่า ความที่ไม่เคยชินกับการเสียบปืนไว้ที่เอว พอยืนพูดนานๆ ทำให้รู้สึกอึดอัดและลื่น และกางเกงของตนก็ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเสียบปืน พอขยับเด็กจึงเห็นและเกิดการแตกตื่นขึ้นมา เป็นการเข้าใจผิด ตนไม่เคยคิดร้ายใครโดยเฉพาะนักเรียน

หลังจากที่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว ซึ่งพบว่ามีรายละเอียดมาก หลังจากนี้ตนจะกลับไปดูและทบทวนข้อกล่าวหาทั้ง 4 ข้อ แล้วจะมาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย