กรุงเทพฯ 20 ส.ค.- รวบหนุ่ม ม.6 วิ่งราวร้านทองในห้างโลตัส สาขาบางแค สารภาพเคยวิ่งราวร้านทองในห้างมาบุญครองปลายเดือนที่ผ่านมาจนเป็นข่าวโด่งดัง เพียงเพื่อต้องการเงินไปจ่ายค่าคอร์สเสริมสวยเหมือนเดิม
เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อนุรักษ์ ยศประสิทธิ์ ผกก.สน.หลักสอง พ.ต.ท.ชัยพันธุ์ เพ็ชรสดศิลป์ รอง ผกก.สส.สน.หลักสอง และ พ.ต.ท.มงคล มะลิวงค์ รอง ผกก.ป.สน.หลักสองร่วมกันจับกุมตัวนายหรั่ง (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนมัธยมชื่อดังย่านบางแค พร้อมของกลางสร้อยข้อมือทองคำ หนัก 5 บาท จำนวน 1 เส้น และ สร้อยข้อมือชุบทองคำปลอมหนัก 5 บาท จำนวน 1 เส้น โดยจับกุมตัวได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาบางแค
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงบ่ายวันท่ี 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สายตรวจได้รับแจ้งเกิดเหตุวิ่งราวทรัพย์ที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ บริเวณทางขึ้นบันไดเลื่อน ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาบางแค และคนร้ายถูกพลเมืองดีช่วยกันไล่ต้อนวนเวียนหลบหนีอยู่ภายในห้าง จึงรีบนำกำลังฝ่ายสืบสวนและสายตรวจรุดไปตรวจสอบ กระทั่ง พบ นายหรั่ง ผู้ต้องหาวิ่งไปจนมุมที่ลานจอดรถ เบื้องต้นจึงควบคุมตัวเอาไว้พร้อมของกลาง ก่อนนำตัวมาสอบสวนและแจ้งผู้ปกครองเดินทางมาดูตัวที่โรงพัก
สอบสวน นายหรั่ง ยอมรับว่า เคยมีประวัติก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 2 เส้นจากร้านทองออโรร่า ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา จนถูกตั้งค่าหัวและมีการแชร์ภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุตามล่าตัวในโลกโซเชียล ทำให้มารดาต้องรีบพาเข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 2 ส.ค.และได้รับการประกันตัว ซึ่งในคดีดังกล่าวนั้นหลังก่อเหตุสำเร็จได้เงินมาก็นำไปเข้าคอร์สเสริมความงามในราคา 70,000 บาท ส่วนที่วางแผนลงมือก่อเหตุในวันนี้เนื่องจากต้องการนำสร้อยข้อมือไปขายหาเงินก้อนไปจ่ายค่าคอร์สเสริมความงามซึ่งลงทะเบียนจองเอาไว้ในสถานเสริมความงามที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาบางแค
ด้าน น.ส.สุจิตรา แสงจันทร์ อายุ 25 ปี พนักงานร้านทอง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุให้บริการลูกค้าอยู่ที่เคาน์เตอร์ตามปกติ จู่ๆ นายหรั่ง ก็เดินเข้ามาหน้าตู้โดยสวมแว่นตาดำ และหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าเพื่อขอดูสร้อยข้อมือ น้ำหนัก 5 บาท ตนเห็นว่า ขณะนั้นมีลูกค้ามาเลือกซื้อขายทองคำอยู่หน้าร้านจำนวนมาก ประกอบกับผู้ต้องหาผิวพรรณดี พูดจาดี ไม่เหมือนมิจฉาชีพ คงไม่กล้าก่อเหตุร้าย จึงหยิบออกมาให้เลือกชม จำนวน 3 เส้น กระทั่ง นายหรั่ง ลองสวมสร้อยใส่ข้อมือ 1 เส้น ก่อนรีบวิ่งหนีไป ตนเห็นดังนั้นจึงตะโกนให้พลเมืองดีและ รปภ.ช่วยวิ่งไล่ตาม กระทั่งตำรวจมาสมทบและล้อมจับกุมตัวได้ในที่สุด
น.ส.สุจิตรา กล่าวด้วยว่า ช่วงที่ นายหรั่ง วิ่งหนีนั้น ได้มีการนำสร้อยข้อมือที่เป็นทองคำปลอมซึ่งเตรียมเอาไว้โยนทิ้งระหว่างทางด้วย เชื่อว่าคงวางแผนเตรียมการมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่คิดว่าเยาวชน อายุแค่ 17 ปี จะกล้าลงมือก่อเหตุลักษณะนี้จนถูกแจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ถึง 2 ครั้งซ้อนในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือน จากการพูดคุยกับมารดาผู้ต้องหาทราบว่า นายหรั่ง ถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีครอบครัวส่งเสียให้เรียนหนังสือที่โรงเรียนเอกชนดีๆ วางแผนอยากให้เรียนกฎหมาย แต่ไม่น่ามาทำแบบนี้เพียงแค่ต้องการเงินไปเสริมความงามให้ตัวเอง จึงอยากฝากบอกไปถึง นายหรั่ง ด้วยว่า ให้กลับตัวกลับใจเชื่อว่าสังคมน่าจะให้อภัยอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย