กทม.17 ส.ค.- บรรยากาศตรึงเครียด เมื่อแกนนำพาเหยื่อแชร์ลูกโซ่ พูดทำนองตำรวจประวิงเวลาในการทำคดี ฝ่ายตำรวจแจงและขออย่าได้หยามการทำงาน
กลุ่มผู้เสียหายกว่า 50 คน จากทั่วประเทศ เข้าแจ้งความร้องทุกข์และติดตามความคืบหน้าคดีที่เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ 3 คดี คือ แชร์ลูกโซ่ทองคำบ้านนุ๊ก สร้างความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท, OD Capital ชักชวนลงทุนที่เมียนมา และคดี เอคิวเอส เจ็น จำกัด ธุรกิจเครือข่ายที่ได้ผลกำไรจากค่าโฆษณาและหาสมาชิก
บรรยากาศภายในห้องประชุม ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 เป็นไปอย่างเคร่งเครียด เมื่อนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ระบุว่า พาผู้เสียหายกว่า 50 คนมาติดตามความคืบหน้า หลังแจ้งความไว้กว่า 3 เดือน แต่คดีไม่คืบ ด้านตำรวจพยายามชี้แจงเหตุผลของความล่าช้า เนื่องจากแต่ละคดีต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน และต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบ การแจ้งความแล้วให้ตำรวจออกหมายเรียก หรือขอหมายจับผู้ต้องหา เป็นไปไม่ได้ ทุกคดีต้องสอบสวนสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน คดีแชร์ลูกโซ่ยิ่งต้องใช้เวลา เพราะแต่ละคนต่างที่มาที่ไป การทำงานต้องใช้ความละเอียด ยืนยันตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจหรือปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไม่มีความหมาย และว่าหากมีคดีลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกและนายสามารถ เป็นแกนนำเรียกร้องสิทธิตามกฎหมาย อย่าได้เหยียดหยามการทำงานของตำรวจอีก
นายศุภฤกษ์ ขาวทอง หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้ลงทุนในธุรกิจ เอคิวเอส เจ็น จำกัด เป็นธุรกิจขายตรงโดยเป็นแม่ข่ายรหาสมาชิก มีดาวน์ไลน์กว่า 6,000 รหัส 4 เดือนแรก ได้ผลกำไรตามที่ตกลงไว้ คือ ลงทุน 10,000 บาท หากชักชวนสมาชิกได้จะได้รับเงิน 2,500 บาท และได้ค่าโฆษณาเพิ่มเติม แต่หลังจากนั้น ถูกบ่ายเบี่ยงการจ่ายเงิน จ่ายล่าช้า จนกระทั่งเดือนเมษายน 2561 ชะงักการจ่ายเงินให้กับสมาชิก เมื่อทวงถามบริษัทอ้างว่า การลงทะเบียนผิดพลาดและไม่ได้รับเงินอีกเลย.-สำนักข่าวไทย