BIG STORY : นายกรัฐมนตรีลุยตรวจระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – นายกรัฐมนตรี ตรวจระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ และทดลองเดินทางทั้งล้อ-ราง-เรือ เพราะเล็งเห็นว่า ปัญหาการจราจรเป็นเรื่องใหญ่ของคนกรุงที่ต้องเร่งแก้ไข ลงพื้นที่ด้วยตัวเองแบบนี้ มีรายละเอียดและสีสันอย่างไรบ้าง ติดตามจากรายงานของทีมข่าวการเมือง



พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เริ่มสตาร์ทจุดแรกที่กองบังคับการตำรวจจราจร รับฟังปัญหาการจราจร จุดวิกฤติ และแนวทางแก้ไข ซึ่งขณะนี้มีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 5 สาย ทำให้สภาพการจราจรในเวลาเร่งด่วนติดขัดอย่างหนัก นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงปัญหาที่อาจเพิ่มมากขึ้นในอนาคต จึงต้องเร่งนำเทคโนโลยีมาแก้ไข และอยากเห็นการแก้ปัญหาเป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือน


นายกรัฐมนตรีทดลองสัมผัสวิถีชาวกรุง นั่งรถยนต์ไปต่อรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยเปรยว่าไม่ได้นั่งมานานกว่า 10 ปี ครั้งนี้ใช้บัตรพิเศษ เป็นภาพถ่ายนายกฯ สวมชุดข้าราชการบังคับรถไฟฟ้า โดยได้ร่วมขบวนกับประชาชนทั่วไป ระหว่างทางทักทาย Say Hi กับเพื่อนร่วมทางอย่างเป็นกันเอง ได้รับกำลังใจล้น ยิ้มจนแก้มปริ


จากล้อ-ราง ต่อด้วยเดินเท้าทางเชื่อม Skywalk ไปลงเรือ ระหว่างทางผ่านโรงเรียนเก่าวัดนวลนรดิศ เจอศิษย์รุ่นน้องรั้วเดียวกันมารอต้อนรับริมคลอง ส่งเสียง-ส่งพลังใจให้กันระหว่างพี่-น้อง

เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง วัดกำแพงบางจาก ได้เข้ากราบสักการะพระประธานและนมัสการเจ้าอาวาสวัด ก่อนเยี่ยมชมโครงการบ้านศิลปิน ซึ่งระหว่างนี้มีกลุ่มเพื่อนโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ พล.อ.ประยุทธ์ 7 คน บุกมาเซอร์ไพรส์ ทักทายและถ่ายรูปด้วยความคิดถึง เพราะไม่ได้เจอกันมาหลายสิบปี รำลึกความหลังด้วยภาพหมู่สมัยวัยรุ่น นายกฯ เอ่ยปากจำเพื่อนรุ่น 77 ได้ไม่เคยลืม และคิดถึงเสมอ

นายกรัฐมนตรีมีโอกาสพูดคุยกับประชาชนหลายจุด ย้ำไม่ได้มาเพื่อการเมือง แต่รัฐบาลจะเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานให้เกิดความเชื่อมโยงกัน เพื่ออนาคตที่ดีของทุกคน ซึ่งก็คือการเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รัฐเดินหน้าแผนโครงสร้างพื้นฐาน หวังพัฒนาเมืองใหม่เชื่อมการค้ากับต่างประเทศ รองรับการเป็นศูนย์กลางอาเซียน และการพัฒนาพื้นที่อีอีซี ต่อจากนี้หากโครงการใดเป็นโครงการที่ดี จะต้องไม่แบ่งว่าเป็นโครงการของฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่ทุกคนจะต้องช่วยกันผลักดัน ทำให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเป็นการเลือกตั้งยุคใหม่ ส่วนตัวไม่ได้ลงเลือกตั้งครั้งหน้า แต่จะอยู่ต่ออย่างไร ต้องไปดูรัฐธรรมนูญ

ลงพื้นที่ครั้งนี้ นอกจากมีรัฐมนตรีคมนาคมและรัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ เคียงข้าง ยังมีผู้ว่าฯ กทม.ประกบไม่ห่าง นายกฯ ถึงกับเอ่ยปากชวนผู้ว่าฯ กทม.ชิมกล้วยน้ำว้า เพื่อจะได้ทำงานง่ายๆ 

หลังจากที่เคยเห็นภาพนายกรัฐมนตรีขับขี่รถทางบก วันนี้มีภาพขับเรือล่องตามคลองบางหลวง จากวัดกำแพงบางจาก มายังวัดอินทารามวรวิหาร แถมโชว์ตัวทักทายประชาชน 2 ฝั่งคลอง 

ครบถ้วนใน 1 วัน ล้อ-ราง-เรือ และชมวิถีชีวิตชุมชนชาวบ้าน นายกฯ ติดใจ ทิ้งท้ายไว้ว่าจะลงพื้นที่ทั่วไทย ไปดูภาพรวมระบบคมนาคมขนส่งทั้งประเทศ ก่อนกลับ นายกรัฐมนตรีได้กราบสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมประชุม World Economic Forum ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และตอกย้ำให้นักลงทุนและภาคเอกชนเชื่อมั่นใน “โอกาสของประเทศไทย” ตามแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”

วันแรก กทม.ขอประชาชน Work From Home

หลังวันแรก กทม. ขอความร่วมมือประชาชน Work From Home พบว่าการจราจรบางจุดคล่องตัว รถลดลง แต่หลายจุดรถยังหนาแน่น โดยการประกาศขอความร่วมมือของ กทม. หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ตลอดสัปดาห์เป็นสีส้ม ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ จำนวนมาก

ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

“อาจารย์ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่