รร.เดอะสุโกศล 15 ส.ค.-กระทรวงยุติธรรม เดินหน้าตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เอกชน ให้กรมบังคับคดีทำหน้าที่กำกับดูแล ตีกรอบเห็นผลใน 3 ปี เริ่มใช้กับเจ้าหนี้นิติบุคคล ส่วนรายย่อยและเอสเอ็มอี กรมบังคับคดียังดูแลตามปกติ
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกลไกพิทักษ์ทรัพย์และการบังคับคดี จากกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจาของอาเซียน คือสาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี ร่วมการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิของเจ้าหนี้และลูกหนี้และมาตรการเยียวยา ภายใต้หัวข้อ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน: กลไกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เอกชนและสิทธิหลักประกัน” เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับกฎหมาย กฎระเบียบ ระบบและแนวทางปฏิบัติที่ดีเลิศด้านการบังคับคดีล้มละลายและความสำคัญของกฎหมายเกี่ยวกับหลักประกันทางธุรกิจต่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ของประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจาของอาเซียนเพื่อนำความรู้และประสบการณ์มาพัฒนากฎหมายล้มละลายและกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดการประชุม
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายในการเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ยุทธศาสตร์ 20 ปีแผนปฏิรูป รวมถึงนโยบายรัฐบาลได้มีการแก้กฎหมายที่ล้าสมัย ออกกฏหมายใหม่ให้สอดคล้องกับข้อตกลงระหว่างประเทศในส่วนของกรมบังคับคดี ซึ่งเป็น ผู้บังคับใช้กฎหมายล้มละลาย 4 ปีที่ผ่านมาได้แก้กฎหมายล้มละลาย 3 ฉบับ เป็นผลให้การจัดลำดับ ความยากง่ายของการประกอบธุรกิจ ตัวชี้วัดที่ 10 การแก้ไขปัญหาล้มละลาย ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 26 จาก190 ประเทศเป็นการปรับปรุงที่ดีขึ้น 13 ลำดับ กรมบังคับคดีมีผู้เชี่ยวชาญในการวิจัยด้านการบริหารจัดการการล้มละลาย เพื่อดูแลผลประโยชน์ของภาคเอกชนทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ซึ่งมีการจัดทำประชาพิจารณ์ เกี่ยวกับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เอกชนโดยมีการนำร่างกฏหมายเพื่อรับฟังความคิดเห็น หวังว่าการประชุมในครั้งนี้ จะได้รับฟังประสบการณ์และแนวปฏิบัติจากประเทศที่มีความสำเร็จในการบริหารจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ ตลอดจนสิทธิในการได้รับการเยียวยาของลูกหนี้และเจ้าหนี้มาเป็นตัวอย่าง เพื่อให้กฎหมายใหม่ของไทยสมบูรณ์
ด้าน น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า ในส่วนของกรมอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย และยกร่างกฏหมาย พ.ร.บ.ล้มละลายฉบับที่ ..พ.ศ.. เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เอกชน ซึ่งอยู่ในระหว่างรับฟังความคิดเห็น ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและ สนช. เรียบร้อยแล้วในการถ่ายโอนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปยังเอกชน รัฐบาลให้เวลากระทรวงยุติธรรม 3 ปี เพื่อดำเนินการให้เป็นรูปธรรม ซึ่งกรมบังคับคดีคาดว่าจะสามารถส่งร่างกฎหมายฉบับนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพิจารณาได้ภายในเดือนหน้า
โดยเนื้อหาสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ จะเปิดโอกาสให้เอกชนที่มีคุณสมบัติมีความรู้และคุณธรรมเข้ามาขอใบอนุญาต ดำเนินการพิทักษ์ทรัพย์ โดยกรมบังคับคดีจะถอยไปเป็นผู้กำกับดูแล ในช่วงเริ่มต้นจะใช้กับเจ้าหนี้ที่เป็นนิติบุคคล ส่วนเจ้าหนี้ที่เป็นรายย่อยหรือบุคคลธรรมดา กรมบังคับคดีในฐานะเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์จะดำเนินการต่อไปเหมือนเดิม ซึ่งเป็นรูปแบบที่ดำเนินการได้สำเร็จในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของโลกในการบังคับคดีโดยภาคเอกชน.-สำนักข่าวไทย