ปทุมธานี 14 ส.ค.- รอง ผบช.ภ.1 ลงพื้นที่ปทุมธานีเกาะติดคืบหน้าคดีอุกอาจยิงรั้วบ้านผู้พิพากษาสมทบย่านคลองหลวง ล่าสุดจับผู้ก่อเหตุได้แล้วเป็นหญิง วัย 36 ปี พร้อมของกลาง เร่งสอบปากคำหาชนวนเหตุที่แน่ชัด
กรณีมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รั้วบ้านพักของนายบรรพจน์ ยังเจริญ ผู้พิพากษาสมทบศาลแรงงานกลาง ในพื้นที่หมู่ 3 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อกลางดึกวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่มีใครได้รับอันตราย แต่ประตูและเสาปูนบ้านแตกเสียหาย และเจ้าหน้าที่ได้เก็บปลอกกระสุนปืนจำนวน 8 ปลอก ส่งไปตรวจสอบขยายผลตามหมายเลขที่ปรากฏบนปลอกกระสุนปืน พบว่าเป็นกระสุนปืนจากสนามยิงปืนเอกชนแห่งหนึ่ง ขณะเดียวกันการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบรถเก๋งสีขาวต้องสงสัยแล่นผ่านหน้าบ้านก่อนเกิดเหตุ
เมื่อเวลา 11.00 น. (14 ส.ค.) พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ ผกก.สส.2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมชุดสืบสวน สภ.คลองห้า อ.คลองหลวง นำหมายศาลจังหวัดธัญบุรีเข้าตรวจสอบบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่คลองเจ็ด หลังจากศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุในคดีนี้เป็นหญิง อายุ 36 ปี แต่ไม่พบตัว มีเพียงรถเก๋งสีขาวที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด ขณะเดียวกันสามีของหญิงรายนี้ได้อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น เบื้องต้นพบปืนสั้น 5 กระบอก ปืนยาว 4 กระบอก และกระสุนปืน พร้อมกันนี้ได้เชิญตัวสามีของหญิงดังกล่าวมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ สภ.คลองห้า
ล่าสุด (13.30 น.) พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงความคืบหน้าว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำเพื่อหามูลเหตุให้ชัดเจนก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำอุกอาจ และ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มอบหมายให้ลงพื้นที่เร่งคลี่คลายคดีจนนำไปสู่การจับกุมตัวได้ในวันนี้ พร้อมอาวุธปืนและรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ขอย้ำว่าเหตุการณ์ใดที่ไม่ปลอดภัยต่อประชาชน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมให้การดูแลช่วยเหลือทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นเหตุบ้านผู้พิพากษาสมทบหรือบ้านเรือนของประชาชน ตำรวจจะต้องตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาให้ได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ส่วนอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดจะนำไปตรวจสอบขยายผลอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย