คุมตัวแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง เข้าสอบปากคำ

กรุงเทพฯ 2 ก.ค. – คุมตัวแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน เข้าสอบปากคำ อีก 2 ผู้ต้องหาอ้างโดนหลอกมาร่วมก่อเหตุ ยังไม่ได้ส่วนแบ่ง ส่วน “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊ง คาดได้ตัวเร็ว ๆ นี้


สืบนครบาลได้ควบคุมตัวนายอนันต์ชัย หรือไอซ์ ผู้ต้องหาในคดีปล้นเงิน 3.4 ล้านบาท กลางศูนย์การค้าย่านลาดพร้าว ซึ่งได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.บางศรีเมือง จังหวัดนนทบุรี เข้ามายัง สน.พหลโยธิน โดยในระหว่างนั้น ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามนายไอซ์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายไอซ์อ้างว่า ก่อนที่จะไปก่อเหตุตนเองถูกลวงว่าให้ไปเป็นเพื่อน เพราะหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุจะไปหาผู้หญิงที่ห้างดัง โดยยืนยันว่าตนเองไม่มีอาวุธปืนไปด้วย ซึ่งตอนที่ผู้เสียหายขึ้นมาบนรถ Civic และใช้ปืนจี้เพื่อเอาเงิน 3.4 ล้านบาท ตนเองก็อยู่ในเหตุการณ์บนรถด้วย เหตุการณ์เกิดขึ้นไวมาก ตนเองก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าใครเป็นคนใช้อาวุธปืนจี้ นายไอซ์อ้างว่าจำไม่ได้ว่าใครใช้อาวุธจี้ เพราะตนเองไม่รู้จักกับคนที่อยู่บนรถ

ส่วนประเด็นที่รู้จักกับนายวรวัฒน์ หรือเสือปุ่น ได้อย่างไรนั้น นายไอซ์อ้างว่าเคยเจอกันในสถานที่เที่ยวและหลังก่อเหตุตนเองไม่ได้รับส่วนแบ่งเงิน ต่อมาผู้สื่อข่าวสอบถามว่า หลังก่อเหตุได้หนีไปอยู่ที่บ้านหรือไม่ และได้พูดอะไรเพื่อตกลงกันกับเสือปุ่นก่อนที่จะพากันหนีหรือไม่ นายไอซ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนทางตำรวจคุมตัวเจ้าตัวเข้าห้องสอบสวน


ต่อมาตำรวจสืบนครบาลได้คุมตัวนายนนทวัฒน์ หรือสอง อายุ 28 ปี อีกหนึ่งผู้ต้องหาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่บ้านพักย่านนนทบุรีและได้รับบาดเจ็บเนื่องจากพยายามปีนหลังคาหลบหนี นำตัวออกจากโรงพยาบาลพระนั่งเกล้ามายัง สน.พหลโยธิน โดยสภาพที่ผู้สื่อข่าวเห็นคือ นายสองได้รับบาดเจ็บแขนขวาหัก แขนซ้ายและข้อเท้าขวามีบาดแผล แต่งกายด้วยเสื้อลายสก๊อต กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล คลุมผ้าสีแดง มีรายงานว่านายสองมีอาการบาดเจ็บที่ปากและใบหน้าด้วย

ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามนายสองถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีหน้าที่อะไรและทราบหรือไม่ว่าจะไปก่อเหตุปล้นดังกล่าว นายสองไม่ตอบคำถามอะไร เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่ารับทราบถึงแผนปล้นครั้งนี้หรือไม่ นายสองส่ายหัวปฏิเสธ ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า ในวันนั้นมีอาวุธปืนไปก่อเหตุด้วยหรือไม่ นายสองก็ส่ายหัวปฏิเสธ ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามต่อไปว่า เพราะเหตุใดถึงคิดที่จะปีนหลังคาเพื่อหลบหนีการจับกุม รวมทั้งตัวนายสองเองได้รับส่วนแบ่งจากการก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่และรู้จักกับพวกเสือปุ่นได้อย่างไร นายสองไม่ตอบคำถามอะไร ก่อนถูกนำตัวเข้าห้องสอบสวน

ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (สืบนครบาล) ซึ่งได้เดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน ด้วย เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยยอมรับว่าในวันก่อเหตุทั้งสองคนได้เดินทางไปด้วย ส่วนรายละเอียดว่าต่างคนต่างทำหน้าที่อะไรจะต้องดำเนินการสอบปากคำอย่างละเอียดต่อไป โดยคาดว่าน่าจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลในวันพรุ่งนี้


อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีแล้ว 4 ราย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 ราย คือ นายวรวัฒน์ หรือปุ่น หรือเสือปุ่น, นายบอล และนายรุ่งนิรันดร์ หรือโบ้ ยังอยู่ในระหว่างการหลบหนีและไม่มีการประสานขอเข้ามอบตัว ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งไล่ล่าติดตามตัวมาดำเนินคดี

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้นำรถยนต์ Honda Civic สีบรอนซ์เงิน ซึ่งเป็นรถยนต์คันก่อเหตุนำตัวผู้เสียหายมาขู่บังคับเพื่อปล้นเงิน มาไว้ที่ สน.พหลโยธิน เพื่อยึดอายัดเป็นของกลางและตรวจสอบรายละเอียด โดยเฉพาะลายนิ้วมือแฝงประกอบสำนวน ซึ่งพบว่ารถคันดังกล่าวถูกถอดแผ่นป้ายทะเบียนและนำไปซุกซ่อนทิ้งไว้ที่ย่านนนทบุรี เพื่อปิดบังอำพรางไม่ให้ถูกตรวจจับได้

สำหรับรายละเอียดการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถยนต์ Honda Civic คันดังกล่าว เจ้าของรถคือภรรยาของนายไอซ์ และคนที่ขับรถในวันก่อเหตุคือตัวนายไอซ์เอง ส่วนนายสอง ทราบว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของเสือปุ่น ในวันก่อเหตุได้นั่งรถยนต์ Honda City ไปกับเสือปุ่นด้วย ต่อมาหลังจากเหตุเมื่อกลุ่มผู้ต้องหาได้แบ่งเงินที่ประชานิเวศน์ 3 ก่อนแยกย้ายกัน โดยตัวนายสองก็ได้นั่งรถ Honda Civic ร่วมกับกลุ่มผู้ต้องหาคนอื่นและแยกย้ายหลบหนีกันไป. -415-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]