กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – กรมชลฯ ปรับลดระบายน้ำเขื่อนขุนด่านปราการชล ช่วยลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน ยืนยันตลอดลำน้ำนครนายกและแม่น้ำบางปะกงไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่ง
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า หลังจากเมื่อวานนี้ (13 ส.ค.) เวลา 15.00 น. ฝนตกหนักบริเวณเขาเขียว เทือกเขาใหญ่ จังหวัดนครนายก วัดปริมาณฝนได้ 168 มิลลิเมตร ทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนขุนด่านปราการชลถึง 13 ล้านลูกบาศก์เมตร มากกว่าวันก่อนหน้ากว่าเท่าตัว ซึ่งอยู่ที่ 5.26 ล้าน ลูกบาศก์เมตร เขื่อนขุนด่านปราการชลมีความจุ 224 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้มีน้ำ 174 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 77.72 ของความจุอ่าง เกินเกณฑ์เก็บกัก (Upper Rule Curve) อยู่ 2.81 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับการระบายน้ำออกแม่น้ำนครนายกท้ายเขื่อนได้ทะยอยลดลงจากเมื่อวานนี้ระบายที่ 3,110,000 ลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ เนื่องจากเกิดน้ำป่าไหลหลากที่น้ำตกนางรองที่เป็นลำสาขาของแม่น้ำนครนายก ซึ่งจะมาสบรวมกับแม่น้ำนครนายกด้านท้ายเขื่อนขุนด่านปราการชล จึงต้องลดการระบายเพื่อไม่ให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง น้ำจะไหลผ่านตัวเมืองนครนายก กรมชลประทานได้ใช้เขื่อนนครนายกผันน้ำเข้าระบบชลประทานฝั่งซ้ายและฝั่งขวา เพื่อส่งเข้าสู่พื้นที่การเกษตรที่ยังต้องการน้ำ ส่วนที่เหลือระบายผ่านท้ายเขื่อนนายกลงสู่แม่น้ำบางปะกง ที่ อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี
ขณะนี้สถานการณ์น้ำเข้าสู่ปกติระดับต่ำกว่าตลิ่ง โดยพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตร ตลอดลำน้ำไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ แต่ได้เตรียมพร้อมเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในลุ่มน้ำนครนายก หากมีฝนตกหนักอีก จึงได้นำเครื่องจักร เครื่องมือ รถขุด 10 คัน เพื่อใช้เปิดและขยายทางน้ำ รวมถึงเสริมความแข็งแรงของตลิ่ง.-สำนักข่าวไทย