นายกฯ ชี้หากเรือล่มไม่ใช่อุบัติเหตุ ต้องหาตัวผู้กระทำผิดให้ได้

ทำเนียบฯ 19 ก.ย. – โฆษกรัฐบาลเผย นายกรัฐมนตรีเสียใจเหตุเรือล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าวัดสนามไชย อยุธยา สั่งมหาดไทย หาแนวทางช่วยเหลือผู้ประสบภัย กำชับกระทรวงคมนาคม  บังคับใช้มาตรการดูแลความปลอดภัยในการเดินเรือมากขึ้น  ชี้หากไม่ใช่อุบัติเหตุต้องหาตัวผู้กระทำผิดให้ได้

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงเหตุเรือบรรทุกผู้โดยสารอับปางกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดสนามไชย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า ก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่สหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากแสดงความเสียใจไปยังบรรดาญาติของผู้เสียชีวิตทุกราย และให้ส่วนราชการดูแลช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตตามสิทธิที่พึงมีพึงได้ นายกรัฐมนตรี สั่งการไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้พิจารณาแนวทางช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและสงเคราะห์ญาติผู้เสียชีวิตทุกราย ตามระเบียบของทางราชการ พร้อมทั้งช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่ จนกว่าจะกลับบ้านได้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี กำชับให้เจ้าหน้าที่สั่งให้บริษัทผู้ประกอบการเรือดังกล่าวหยุดประกอบการชั่วคราว เพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์  ซึ่งอาจจะเป็นอุบัติเหตุ ความประมาทเลินเล่อ หรือการคำนึงถึงแต่ประโยชน์ของเจ้าของเรือ หรือผู้ขับเรือ โดยละเลยความปลอดภัย เช่น บรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาต หากไม่ใช่อุบัติเหตุให้หาคนผิดมาลงโทษให้ได้

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า  นายกรัฐมนตรี เป็นห่วง เพราะ เหตุการณ์ไม่คาดฝันทางเรือ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าเศร้าสลด และไม่มีใครอยากให้เกิด โดยได้แนะนำให้ประชาชนคำนึงถึงความปลอดภัยมากกว่าความประหยัด เช่น ไม่ใช้บริการเรือโดยสารที่ไม่ได้มาตรฐานหรือมีราคาถูก เพราะเมื่อเกิดเหตุแล้ว ไม่สามารถชดเชยความสูญเสียได้ นอกจากนี้ ยังให้กระทรวงคมนาคมเข้มงวดกวดขัน บังคับใช้มาตรการดูแลความปลอดภัยในการเดินเรือมากขึ้น ตั้งแต่ก่อนลงเรือ ระหว่างโดยสารเรือ ขณะขึ้นจากเรือ และข้อควรปฏิบัติหากเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น โดยเรือบรรทุกผู้โดยสารทุกลำจะต้องมีมาตรฐาน ผู้ประกอบการและผู้ขับเรือต้องมีใบอนุญาต ต้องจัดให้มีเสื้อชูชีพหรืออุปกรณ์กู้ชีพไว้ในเรืออย่างเพียงพอ รวมทั้งต้องแจ้งเตือน อธิบาย และสาธิตการใช้งานอุปกรณ์ความปลอดภัย และการปฏิบัติตนเมื่ออยู่บนเรือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะนี้ซ้ำอีกในอนาคต .-สำนักข่าวไทย