จ่อออกหมายจับอีก 5-6 คนคดีลวงลงทุนเงินดิจิทัลโยงบูม จิรัชพิสิษฐ์

กรุงเทพฯ 11 ส.ค.61- ตำรวจกองปราบฯ เตรียมออกหมายจับอีก 5-6 คน เกี่ยวข้องคดีหลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล หลังพบหลักฐานเชื่อมโยง “บูม จิรัชพิสิษฐ์” 


พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุเตรียมออกหมายจับคดีหลอกลงทุนบิทคอยน์ เชื่อมโยงตระกูลจารวิจิต เพิ่ม 5-6 ราย ยืนยันคดีไม่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกรรมในตลาดหลักทรัพย์ ยืนยันนางสาวสุพิชย์ฌา จารวิจิต พี่สาวนายบูม จิรัชพิสิษฐ์ ประสานผ่านคนกลางขอเข้ามอบตัว แต่ยังไม่ระบุวันเวลา และยังไม่พบการเดินทางออกนอกประเทศ

ขณะที่ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการกองปราบปราม ยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกรรมหรือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แต่เป็นลักษณะแอบอ้างว่าบริษัทตัวเองอยู่ในเครือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์


ส่วนนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ บุคคลที่มีชื่อเสียงในตลาดหลักทรัพย์ ที่เข้ามาพบรองผู้บังคับการปราบปราม เพื่อเข้าชี้แจ้งอ้างว่าตนเองตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้เช่นเดียวกัน แต่จากการสืบสวน รวบรวมหลักฐานเจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อมูลที่เชื่อได้ว่านายประสิทธิ์ อาจจะมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน 

และจากการตรวจสอบ 3 บริษัท ที่มีการเปิดทั้งในประเทศไทยและเกาะฮ่องกง ยังพบว่านายปริญญา พี่ชายบูม จิรัชพิสิษฐ์ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว โดยทะเบียนการค้าทั้งสามบริษัท พบว่ามีคนในตระกูลจารวิจิต เข้าร่วมด้วยและบางบริษัทมีการแอบอ้างกับผู้เสียหายโดยไม่มีตัวตนจริง นอกจากนี้ ยังมีบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าวอีกหลายบริษัท ซึ่งตำรวจกองปราบอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ซึ่งนายปริญญา เคยมีประวัติถูกออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกรอีกด้วย 

สำหรับพฤติการณ์ของขบวนการนี้ ร่วมกันหลอกลวง นักลงทุนชาวต่างชาติชื่อนายอาร์นี ออตตาวา ซาอ์ริมาอ์ ชาวฟินแลนด์ ให้ร่วมลงทุนเหรียญบิทคอยน์ให้มาลงทุนในประเทศไทยโดยนำเหรียญดังกล่าวไปเปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งสกุลเพื่อลงทุนต่อไปยังตลาดหลักทรัพย์และนำไปใช้ในบ่อนการพนันที่มาเก๊า แต่ไม่มีการนำเงินไปลงทุนอย่างที่กล่าวอ้างแต่นำเงินดังกล่าวไปหมุนเวียนใช้จ่ายภายในครอบครัว และใช้เงินซื้อที่ดิน ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่อายัดเงินได้แล้วกว่า 200 ล้านบาท จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีบัญชีที่เกี่ยวข้องกว่า 40 บัญชี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”