รวบแล้วฆาตกรฆ่าหญิงวัย 36 ทิ้งน้ำ ฉุนถูกด่าไม่หยุด

บุรีรัมย์ 9 ส.ค.-รวบแล้ว! ผู้ต้องหาฆ่าหญิงวัย 36 ทิ้งน้ำ อำพรางเหมือนจมน้ำเสียชีวิต พบเป็นญาติสามีผู้เสียชีวิต รับทำไปเพราะถูกต่อว่าเรื่องไม่ยอมตัดหญ้าแบ่งไปเลี้ยงควาย


ความคืบหน้ากรณีที่มีคนไปพบศพ นางสาวเต็ม ไชยโย อายุ 36 ปี ชาวบ้านบ้านชุมแสงใหม่ ต.ดงพลอง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ จมน้ำเสียชีวิตที่สระสาธารณะท้ายหมู่บ้าน เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา  จากการตรวจสอบสภาพศพกลับพบร่องรอยบาดแผลฉกรรจ์ ที่บริเวณเหนือคิ้วซ้ายคล้ายกับถูกของมีคมฟัน ท้ายทอยมีรอยคล้ายถูกของแข็งตีมีเลือดไหลออกไม่หยุด และบริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำ คล้ายกับถูกบีบอย่างแรง ทำให้ญาติและชาวบ้านติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต เชื่อว่าน่าจะถูกฆาตกรรมแล้วนำศพมาโยนทิ้งน้ำเพื่ออำพราง จึงเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยส่งศพไปตรวจพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง


ล่าสุดภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แคนดง ท้องที่เกิดเหตุ และตำรวจกองปราบภูธรภาค 3 ได้ลงพื้นที่หาข้อมูลหลักฐานเชิงลึก เพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว กระทั่งทราบตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็ม ตามที่ญาติและชาวบ้านติดใจ ว่าเป็นการฆาตกรรม คือ นายสุพรรณ นวลวรรณ์ อายุ 50 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของสามีผู้ตายเอง เนื่องจากไปพบหลักฐานสำคัญคือเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดซึ่งตากไว้ที่บ้าน จึงได้นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.แคนดง   

จากการสอบสวนนายสุพรรณ ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็มจริง โดยอ้างว่าในวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. (วันที่ 6 ส.ค.)  ได้นำควายไปเลี้ยงที่บริเวณใกล้สระน้ำตามปกติเหมือนทุกวัน ซึ่ง น.ส.เต็ม ก็นำควายมาเลี้ยงบริเวณดังกล่าวเช่นเดียวกัน จากนั้น น.ส.เต็ม ผู้ตายก็เดินมาต่อว่า ว่าไม่ยอมตัดหญ้าแบ่งให้กับผู้ตายไปเลี้ยงควายด้วย ทั้งที่เครื่องตัดหญ้าเป็นของผู้ตาย จนเกิดมีปากเสียงกัน ที่บริเวณบันไดทางเดินขึ้น-ลงสระน้ำสาธารณะที่เกิดเหตุ ซึ่งนายสุพรรณ อ้างว่าด้วยความโกรธแค้นที่ถูกผู้ตายต่อว่าไม่ยอมหยุด และก่อนหน้านี้ก็ถูกต่อว่ามาหลายครั้ง จึงได้คว้าท่อนไม้ขนาดใหญ่ตีเข้าที่ท้ายทอยของ น.ส.เต็ม ไป 1 ครั้ง จนล้มลง แล้วตีซ้ำที่บริเวณด้านหน้าอีก 1 ครั้ง จน น.ส.เต็ม เสียหลักตกลงไปในน้ำโดยไม่ได้ช่วยเหลือ แล้วทำทีเหมือนเป็นการจมน้ำเสียชีวิต ก่อนจะไล่ต้อนควายทั้งของตนเองและของผู้ตายกลับเข้าคอกทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  


นายสุพรรณ ผู้ก่อเหตุ ยังบอกอีกว่า หลังจากก่อเหตุเสร็จก็ปิดบังเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง กระทั่งมีคนไปพบศพ น.ส.เต็ม จมน้ำเสียชีวิตในสระสาธารณะดังกล่าว แล้วนำศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านตั้งแต่คืนวันที่ 6 ส.ค. ตนเองก็ยังเดินทางไปร่วมงานศพตามปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งยังพูดบอกญาติพี่น้องว่าให้รีบเผาศพผู้ตาย เพราะไม่มีเงินจะจัดงานศพหลายวัน  แต่เนื่องจากญาติและชาวบ้านส่วนใหญ่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงเรียกร้องให้ทางตำรวจช่วยส่งศพไปตรวจพิสูจน์ และสอบสวนหาสาเหตุการตายที่แท้จริง กระทั่งมีการนำศพไปผ่าพิสูจน์และสืบสวนหาข้อเท็จจริง จนสามารถจับกุมตัวได้ นายสุพรรณ ยังอ้างว่าจริงๆ ตั้งใจว่าหากเสร็จงานศพแล้วจะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยตัวเอง แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน ซึ่งตำรวจยังไม่ปักเชื่อ คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะไปงานศพเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวตลอด หากไม่มีการติดตามคดีก็คงคิดว่าน่าจะรอดพ้นความผิด     

ด้าน พ.ต.อ.โรมรัน จินดานุภาพ ผู้กำกับการสถานีตำรวจแคนดง ระบุว่าถึงแม้ผู้ก่อเหตุจะยอมรับสารภาพ ว่าได้ก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็ม จริง แต่ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบสำนวนคดีให้แน่นหนามากขึ้น และให้เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งขณะนี้ก็ได้ตรวจยึดเสื้อผ้าเปื้อนเลือดที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ท่อนไม้ที่มีเส้นผมของผู้ตายติดอยู่ซึ่งถือเป็นวัตถุพยานสำคัญ แต่ก็ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ของแพทย์มาประกอบด้วยเช่นกัน

ขณะที่วันนี้ก็ได้มีการทำพิธีฌาปนกิจศพของ น.ส.เต็ม ที่วัดป่าหนาม ภายหลังจากมีการผ่าพิสูจน์ศพเรียบร้อยแล้ว บรรยากาศภายในงานศพก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้าของครอบครัว ญาติพี่น้อง ขณะที่ประกอบพิธีฌาปนกิจศพผู้ใหญ่บ้านก็ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าตำรวจว่า สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็ม ได้แล้ว จากนั้นผู้ใหญ่บ้านก็ได้ประกาศกลางงานศพให้ญาติได้รับทราบกลางงานศพว่า คนที่ฆ่า น.ส.เต็ม เป็นใคร ทันทีที่ผู้ใหญ่บ้านประกาศชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุ ก็สร้างความตกใจให้กับญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก โดยญาติของทั้งสองฝ่ายต่างก็ร้องไห้โฮ ทั้งดีใจที่สามารถจับกุมตัวได้แล้ว ขณะเดียวกันก็เสียใจที่ผู้ก่อเหตุเป็นญาติพี่น้องของสามีผู้ตายเอง ซึ่งไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในหมู่บ้าน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย

แจ้ง 5 ข้อหา เอาผิดเรือเมียนมาเกยแนวปะการังหมู่เกาะสุรินทร์

พังงา​ 4 มิ.ย. – อุทยาน​แห่งชาติ​หมู่เกาะ​สุรินทร์ ​แจ้ง​ความ​เอาผิด​ผู้​เกี่ยว​ข้อ​งกับเหตุ​การ​ณ์​เรือขนส่ง​สินค้า​สัญชาติ​เมียนมา​ เกย​ตื้น​ทับแนวปะการัง​อุทยาน​แห่งชาติ​หมู่เกาะ​สุรินทร์​ ดำเนิน​คดี​ 5 ข้อหา​หนัก​ พร้อมเรียก​ร้อง​ค่าเสียหาย​ต่อรัฐ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ กรณีเรือขนส่งสินค้าสัญชาติเมียนมา “MV.AYAR LINN” ชนแนวปะการังและเกยตื้นบริเวณอ่าวจาก เขตอุทยานฯ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.คุระบุรี จังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 13.26 น. ตาม ปจว.ข้อ 5 คดีอาญาที่ 128/2568 และคดียึดทรัพย์ที่ 60/2568 การแจ้งความดังกล่าวระบุฐานความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 รวม 5 ข้อหา ได้แก่ อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำว่า […]