บุรีรัมย์ 9 ส.ค.-รวบแล้ว! ผู้ต้องหาฆ่าหญิงวัย 36 ทิ้งน้ำ อำพรางเหมือนจมน้ำเสียชีวิต พบเป็นญาติสามีผู้เสียชีวิต รับทำไปเพราะถูกต่อว่าเรื่องไม่ยอมตัดหญ้าแบ่งไปเลี้ยงควาย
ความคืบหน้ากรณีที่มีคนไปพบศพ นางสาวเต็ม ไชยโย อายุ 36 ปี ชาวบ้านบ้านชุมแสงใหม่ ต.ดงพลอง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ จมน้ำเสียชีวิตที่สระสาธารณะท้ายหมู่บ้าน เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบสภาพศพกลับพบร่องรอยบาดแผลฉกรรจ์ ที่บริเวณเหนือคิ้วซ้ายคล้ายกับถูกของมีคมฟัน ท้ายทอยมีรอยคล้ายถูกของแข็งตีมีเลือดไหลออกไม่หยุด และบริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำ คล้ายกับถูกบีบอย่างแรง ทำให้ญาติและชาวบ้านติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต เชื่อว่าน่าจะถูกฆาตกรรมแล้วนำศพมาโยนทิ้งน้ำเพื่ออำพราง จึงเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยส่งศพไปตรวจพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง
ล่าสุดภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แคนดง ท้องที่เกิดเหตุ และตำรวจกองปราบภูธรภาค 3 ได้ลงพื้นที่หาข้อมูลหลักฐานเชิงลึก เพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว กระทั่งทราบตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็ม ตามที่ญาติและชาวบ้านติดใจ ว่าเป็นการฆาตกรรม คือ นายสุพรรณ นวลวรรณ์ อายุ 50 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของสามีผู้ตายเอง เนื่องจากไปพบหลักฐานสำคัญคือเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดซึ่งตากไว้ที่บ้าน จึงได้นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.แคนดง
จากการสอบสวนนายสุพรรณ ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็มจริง โดยอ้างว่าในวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. (วันที่ 6 ส.ค.) ได้นำควายไปเลี้ยงที่บริเวณใกล้สระน้ำตามปกติเหมือนทุกวัน ซึ่ง น.ส.เต็ม ก็นำควายมาเลี้ยงบริเวณดังกล่าวเช่นเดียวกัน จากนั้น น.ส.เต็ม ผู้ตายก็เดินมาต่อว่า ว่าไม่ยอมตัดหญ้าแบ่งให้กับผู้ตายไปเลี้ยงควายด้วย ทั้งที่เครื่องตัดหญ้าเป็นของผู้ตาย จนเกิดมีปากเสียงกัน ที่บริเวณบันไดทางเดินขึ้น-ลงสระน้ำสาธารณะที่เกิดเหตุ ซึ่งนายสุพรรณ อ้างว่าด้วยความโกรธแค้นที่ถูกผู้ตายต่อว่าไม่ยอมหยุด และก่อนหน้านี้ก็ถูกต่อว่ามาหลายครั้ง จึงได้คว้าท่อนไม้ขนาดใหญ่ตีเข้าที่ท้ายทอยของ น.ส.เต็ม ไป 1 ครั้ง จนล้มลง แล้วตีซ้ำที่บริเวณด้านหน้าอีก 1 ครั้ง จน น.ส.เต็ม เสียหลักตกลงไปในน้ำโดยไม่ได้ช่วยเหลือ แล้วทำทีเหมือนเป็นการจมน้ำเสียชีวิต ก่อนจะไล่ต้อนควายทั้งของตนเองและของผู้ตายกลับเข้าคอกทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นายสุพรรณ ผู้ก่อเหตุ ยังบอกอีกว่า หลังจากก่อเหตุเสร็จก็ปิดบังเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง กระทั่งมีคนไปพบศพ น.ส.เต็ม จมน้ำเสียชีวิตในสระสาธารณะดังกล่าว แล้วนำศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านตั้งแต่คืนวันที่ 6 ส.ค. ตนเองก็ยังเดินทางไปร่วมงานศพตามปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งยังพูดบอกญาติพี่น้องว่าให้รีบเผาศพผู้ตาย เพราะไม่มีเงินจะจัดงานศพหลายวัน แต่เนื่องจากญาติและชาวบ้านส่วนใหญ่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงเรียกร้องให้ทางตำรวจช่วยส่งศพไปตรวจพิสูจน์ และสอบสวนหาสาเหตุการตายที่แท้จริง กระทั่งมีการนำศพไปผ่าพิสูจน์และสืบสวนหาข้อเท็จจริง จนสามารถจับกุมตัวได้ นายสุพรรณ ยังอ้างว่าจริงๆ ตั้งใจว่าหากเสร็จงานศพแล้วจะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยตัวเอง แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน ซึ่งตำรวจยังไม่ปักเชื่อ คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะไปงานศพเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวตลอด หากไม่มีการติดตามคดีก็คงคิดว่าน่าจะรอดพ้นความผิด
ด้าน พ.ต.อ.โรมรัน จินดานุภาพ ผู้กำกับการสถานีตำรวจแคนดง ระบุว่าถึงแม้ผู้ก่อเหตุจะยอมรับสารภาพ ว่าได้ก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็ม จริง แต่ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบสำนวนคดีให้แน่นหนามากขึ้น และให้เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งขณะนี้ก็ได้ตรวจยึดเสื้อผ้าเปื้อนเลือดที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ท่อนไม้ที่มีเส้นผมของผู้ตายติดอยู่ซึ่งถือเป็นวัตถุพยานสำคัญ แต่ก็ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ของแพทย์มาประกอบด้วยเช่นกัน
ขณะที่วันนี้ก็ได้มีการทำพิธีฌาปนกิจศพของ น.ส.เต็ม ที่วัดป่าหนาม ภายหลังจากมีการผ่าพิสูจน์ศพเรียบร้อยแล้ว บรรยากาศภายในงานศพก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้าของครอบครัว ญาติพี่น้อง ขณะที่ประกอบพิธีฌาปนกิจศพผู้ใหญ่บ้านก็ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าตำรวจว่า สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็ม ได้แล้ว จากนั้นผู้ใหญ่บ้านก็ได้ประกาศกลางงานศพให้ญาติได้รับทราบกลางงานศพว่า คนที่ฆ่า น.ส.เต็ม เป็นใคร ทันทีที่ผู้ใหญ่บ้านประกาศชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุ ก็สร้างความตกใจให้กับญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก โดยญาติของทั้งสองฝ่ายต่างก็ร้องไห้โฮ ทั้งดีใจที่สามารถจับกุมตัวได้แล้ว ขณะเดียวกันก็เสียใจที่ผู้ก่อเหตุเป็นญาติพี่น้องของสามีผู้ตายเอง ซึ่งไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในหมู่บ้าน.-สำนักข่าวไทย