รวบแล้วฆาตกรฆ่าหญิงวัย 36 ทิ้งน้ำ ฉุนถูกด่าไม่หยุด

บุรีรัมย์ 9 ส.ค.-รวบแล้ว! ผู้ต้องหาฆ่าหญิงวัย 36 ทิ้งน้ำ อำพรางเหมือนจมน้ำเสียชีวิต พบเป็นญาติสามีผู้เสียชีวิต รับทำไปเพราะถูกต่อว่าเรื่องไม่ยอมตัดหญ้าแบ่งไปเลี้ยงควาย


ความคืบหน้ากรณีที่มีคนไปพบศพ นางสาวเต็ม ไชยโย อายุ 36 ปี ชาวบ้านบ้านชุมแสงใหม่ ต.ดงพลอง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ จมน้ำเสียชีวิตที่สระสาธารณะท้ายหมู่บ้าน เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา  จากการตรวจสอบสภาพศพกลับพบร่องรอยบาดแผลฉกรรจ์ ที่บริเวณเหนือคิ้วซ้ายคล้ายกับถูกของมีคมฟัน ท้ายทอยมีรอยคล้ายถูกของแข็งตีมีเลือดไหลออกไม่หยุด และบริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำ คล้ายกับถูกบีบอย่างแรง ทำให้ญาติและชาวบ้านติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต เชื่อว่าน่าจะถูกฆาตกรรมแล้วนำศพมาโยนทิ้งน้ำเพื่ออำพราง จึงเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยส่งศพไปตรวจพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง


ล่าสุดภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แคนดง ท้องที่เกิดเหตุ และตำรวจกองปราบภูธรภาค 3 ได้ลงพื้นที่หาข้อมูลหลักฐานเชิงลึก เพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว กระทั่งทราบตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็ม ตามที่ญาติและชาวบ้านติดใจ ว่าเป็นการฆาตกรรม คือ นายสุพรรณ นวลวรรณ์ อายุ 50 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของสามีผู้ตายเอง เนื่องจากไปพบหลักฐานสำคัญคือเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดซึ่งตากไว้ที่บ้าน จึงได้นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.แคนดง   

จากการสอบสวนนายสุพรรณ ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็มจริง โดยอ้างว่าในวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. (วันที่ 6 ส.ค.)  ได้นำควายไปเลี้ยงที่บริเวณใกล้สระน้ำตามปกติเหมือนทุกวัน ซึ่ง น.ส.เต็ม ก็นำควายมาเลี้ยงบริเวณดังกล่าวเช่นเดียวกัน จากนั้น น.ส.เต็ม ผู้ตายก็เดินมาต่อว่า ว่าไม่ยอมตัดหญ้าแบ่งให้กับผู้ตายไปเลี้ยงควายด้วย ทั้งที่เครื่องตัดหญ้าเป็นของผู้ตาย จนเกิดมีปากเสียงกัน ที่บริเวณบันไดทางเดินขึ้น-ลงสระน้ำสาธารณะที่เกิดเหตุ ซึ่งนายสุพรรณ อ้างว่าด้วยความโกรธแค้นที่ถูกผู้ตายต่อว่าไม่ยอมหยุด และก่อนหน้านี้ก็ถูกต่อว่ามาหลายครั้ง จึงได้คว้าท่อนไม้ขนาดใหญ่ตีเข้าที่ท้ายทอยของ น.ส.เต็ม ไป 1 ครั้ง จนล้มลง แล้วตีซ้ำที่บริเวณด้านหน้าอีก 1 ครั้ง จน น.ส.เต็ม เสียหลักตกลงไปในน้ำโดยไม่ได้ช่วยเหลือ แล้วทำทีเหมือนเป็นการจมน้ำเสียชีวิต ก่อนจะไล่ต้อนควายทั้งของตนเองและของผู้ตายกลับเข้าคอกทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  


นายสุพรรณ ผู้ก่อเหตุ ยังบอกอีกว่า หลังจากก่อเหตุเสร็จก็ปิดบังเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง กระทั่งมีคนไปพบศพ น.ส.เต็ม จมน้ำเสียชีวิตในสระสาธารณะดังกล่าว แล้วนำศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านตั้งแต่คืนวันที่ 6 ส.ค. ตนเองก็ยังเดินทางไปร่วมงานศพตามปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งยังพูดบอกญาติพี่น้องว่าให้รีบเผาศพผู้ตาย เพราะไม่มีเงินจะจัดงานศพหลายวัน  แต่เนื่องจากญาติและชาวบ้านส่วนใหญ่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงเรียกร้องให้ทางตำรวจช่วยส่งศพไปตรวจพิสูจน์ และสอบสวนหาสาเหตุการตายที่แท้จริง กระทั่งมีการนำศพไปผ่าพิสูจน์และสืบสวนหาข้อเท็จจริง จนสามารถจับกุมตัวได้ นายสุพรรณ ยังอ้างว่าจริงๆ ตั้งใจว่าหากเสร็จงานศพแล้วจะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยตัวเอง แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน ซึ่งตำรวจยังไม่ปักเชื่อ คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะไปงานศพเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวตลอด หากไม่มีการติดตามคดีก็คงคิดว่าน่าจะรอดพ้นความผิด     

ด้าน พ.ต.อ.โรมรัน จินดานุภาพ ผู้กำกับการสถานีตำรวจแคนดง ระบุว่าถึงแม้ผู้ก่อเหตุจะยอมรับสารภาพ ว่าได้ก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็ม จริง แต่ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบสำนวนคดีให้แน่นหนามากขึ้น และให้เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งขณะนี้ก็ได้ตรวจยึดเสื้อผ้าเปื้อนเลือดที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ท่อนไม้ที่มีเส้นผมของผู้ตายติดอยู่ซึ่งถือเป็นวัตถุพยานสำคัญ แต่ก็ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ของแพทย์มาประกอบด้วยเช่นกัน

ขณะที่วันนี้ก็ได้มีการทำพิธีฌาปนกิจศพของ น.ส.เต็ม ที่วัดป่าหนาม ภายหลังจากมีการผ่าพิสูจน์ศพเรียบร้อยแล้ว บรรยากาศภายในงานศพก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้าของครอบครัว ญาติพี่น้อง ขณะที่ประกอบพิธีฌาปนกิจศพผู้ใหญ่บ้านก็ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าตำรวจว่า สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็ม ได้แล้ว จากนั้นผู้ใหญ่บ้านก็ได้ประกาศกลางงานศพให้ญาติได้รับทราบกลางงานศพว่า คนที่ฆ่า น.ส.เต็ม เป็นใคร ทันทีที่ผู้ใหญ่บ้านประกาศชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุ ก็สร้างความตกใจให้กับญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก โดยญาติของทั้งสองฝ่ายต่างก็ร้องไห้โฮ ทั้งดีใจที่สามารถจับกุมตัวได้แล้ว ขณะเดียวกันก็เสียใจที่ผู้ก่อเหตุเป็นญาติพี่น้องของสามีผู้ตายเอง ซึ่งไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในหมู่บ้าน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]

ป.ป.ช.รับสอบคลิปเสียงนายกฯ ไม่กดดัน โฟกัสคลิปเสียงต้องแปลชัดเจน

ชลบุรี 25 มิ.ย.-เลขาฯ ป.ป.ช. เผย ป.ป.ช.รับสอบคลิปเสียง นายกฯ ไม่กดดัน ยังอยู่ขั้นตอนรับมาตรวจสอบ โฟกัสที่คลิปเสียง ต้องแปลข้อความชัดเจน เพราะเป็นสองภาษา เบื้องต้นไม่ต้องเชิญ “แพทองธาร” มาสอบ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวภายหลังเปิดโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักงาน ป.ป.ช. ที่จ.ชลบุรี ถึงคดีคลิปเสียง นส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี กับนายฮุนเซน ว่า เรื่องนี้ มีการร้องมาที่ ป.ป.ช. ก็เป็นเรื่องปกติเมื่อมีการร้องในคดีสำคัญ สำนักงาน ป.ป.ช. ต้องสรุปรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการรับทราบ ซึ่งคดีสำคัญเมื่อ ที่ประชุมรับทราบแล้วก็จะกำหนดสิ่งที่ต้องดำเนินการเบื้องต้น ระยะเวลา เมื่อเสร็จต้องกลับมาพิจารณาในที่ประชุม จึงไม่ใช่ 10 วันส่งศาลตามที่เป็นข่าว ยังอยู่ในขั้นตอนรับมาตรวจสอบ ปกติ ถ้าอยู่ในอำนาจหน้าที่ก็รับมา เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ จึงมีมติต้องมารายงานให้กรรมการ ป.ป.ช.ทราบเป็นระยะ กรณีนี้ ร้องฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ถ้าประเด็นรายละเอียดต้องสอบน้อย ก็ใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้ามีรายละเอียดมากก็กำหนด 6 เดือน […]

ชาวกัมพูชากว่า 500 คน แห่กลับประเทศด่านช่องจอม จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 25 มิ.ย.-ชาวกัมพูชากว่า 500 คน ส่วนมากเป็นแรงงานและผู้ป่วย แห่กลับประเทศผ่านด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ หลังฝั่งกัมพูชาเปิดด่าน เวลา 10.00 น. โดยใช้เวลาเปิดเพียง 30 นาทีเท่านั้น บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เช้าวันนี้ทางฝั่งไทยได้เปิดประตูด่านตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. โดยดำเนินการตามมาตรการและคำสั่งจากกองทัพภาคที่2 อย่างเข้มงวด เพื่อดำเนินการตามมนุษยธรรมเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ผู้คนผ่านเข้าออกและขนส่งสินค้า แต่ก็มีปัญาหาจากฝั่งกัมพูชา ในวันนี้กลับปิดด่าน โดยทางฝั่งกัมพูชาอ้างต้องรอคำสั่งจากผู้ว่าอุดรมีชัยเท่านั้น ทำให้มีชาวกัมพูชาจำนวนมากมารอคิวเดินทางกลับ ส่วนมากจะเป็นแรงงานและผู้ป่วยมาหาหมอแล้วเดินทางกลับ ล่าสุด กัมพูชาเปิดประตูแล้วเมื่อเวลา 10.00 น. มีชาวกัมพูชากว่า 500 คน เดินทางกลับ ส่วนคนไทยกลับเข้ามามีน้อย ขณะเจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชา ตรวจคุมเข้ม โดยไม่ให้ชาวกัมพูชาผ่านเข้ามาและคนไทยไม่ให้ผ่านเข้ากัมพูชาเด็ดขาด รวมไปถึงรถขนส่งสินค้า แต่มีชาวกัมพูชาบางคนไม่เข้าใจ พยายามจะเข้ามาโดยอ้างเอกสารถูกต้อง เจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชา ได้มาทำความเข้าใจและให้เดินทางกลับ โดยทางกัมพูชาได้ปิดประตูด่านแล้วเวลา 10.30 น. ใช้เวลาเปิดเพียง 30 นาทีเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ทะลักด่านคลองลึก หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา

สระแก้ว 24 มิ.ย. – วุ่นเล็กน้อย วันแรกปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ชาวไทย-กัมพูชาที่ตกค้าง ต่างเร่งรีบเดินทางกลับให้ทันกำหนดเวลา 20.00 น. หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา วันนี้วันเดียว ส่วนนักเรียน-นักศึกษา ยังคงผ่านแดนได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย