เพชรบุรี 9 ส.ค.-ชาวบ้านหลายครัวเรือนได้รับผลกระทบจากน้ำเขื่อนแก่งกระจานที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่พื้นที่การเกษตรหลายแห่งเสียหายไม่แพ้กัน ล่าสุด ระดับแม่น้ำเพชรบุรีเริ่มลดลง แต่ระดับน้ำในเขื่อนยังสูงอยู่
วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ล่องเรือสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน ที่เพิ่มสูงขึ้นจนท่วมบ้านเรือนประชาชนและที่พักแบบโฮมสเตย์ของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมอ่างเก็บน้ำ พบว่าส่วนใหญ่เป็นโฮมสเตย์ของชาวบ้านที่เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เช่น กลุ่มอาคารที่เห็นเพียงหลังคามุงจากโผล่พ้นน้ำกลุ่มนี้ ขณะที่บ้านหลายหลังถูกน้ำท่วม จนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ต้องไปขออาศัยอยู่กับญาติชั่วคราว
เช่นชาวบ้านรายนี้เล่าว่า บ้านพักถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหลัง ยังดีที่สามารถขนย้ายข้าวออกออกจากบ้านไปอาศัยอยู่บ้านแม่สามีอีกหมู่บ้านหนึ่ง ทีมข่าวขอให้เธอพาไปสำรวจที่บ้าน เธอบอกว่า ตอนนี้น้ำท่วมสูงกระทั่งหลังคาบ้านยังมองไม่เห็น สามีต้องดำน้ำไปสำรวจว่าเสาบ้านและหลังคายังอยู่ดีหรือไม่
ส่วนชาวบ้านลิงลง ต.สองพี่น้อง รายนี้ก็อาศัยอยู่ในพื้นที่เหนือเขื่อนแก่งกระจานเช่นเดียวกัน เธอเล่าว่า บ้านพักของเธอถูกน้ำเอ่อเข้าถึงเพียงเล็กน้อย แต่พืชผลการเกษตร ทั้งผักสวนครัวและไม้ผลถูกน้ำท่วมเป็นเวลานานนับสัปดาห์แล้ว
วันนี้ กรมชลประทานได้ติดตั้งกาลักน้ำเพิ่มอีก พร้อมนำหินมาเรียงให้เป็นเส้นทางเดินของน้ำ ป้องกันดินใต้สันเขื่อนถูกกระแสน้ำกัดเซาะ
ส่วนกรมทางหลวงชนบท โดยสำนักทางหลวงชนบทที่ 4 เพชรบุรี ได้นำสะพานเบลีย์ หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป 1 ช่องจราจร ความยาว 15 เมตร มาติดตั้งบริเวณถนนทางขึ้นสันเขื่อน ซึ่งเป็นจุดที่น้ำจากท่อกาลักน้ำไหลผ่านถนน ก่อนลงไปยังแม่น้ำเพชรบุรี เพื่อให้ชาวบ้าน ผู้ใช้รถใช้ถนนสัญจรได้สะดวก โดยไม่เป็นอันตราย แต่สามารถเดินรถผ่านได้ทีละช่องจราจรเท่านั้น
ขณะนี้ในพื้นที่ อ.แก่งกระจาน มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างลงพื้นที่มาช่วยเหลือ และนำสิ่งของมาบริจาคแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นเรือชนิดต่างๆ ข้าวสาร อาหารแห้ง รวมถึงน้ำดื่ม นอกจากนี้ ผู้ประกอบการในพื้นที่ อ.แก่งกระจาน บางแห่งที่ไม่ถูกน้ำท่วม ก็เปิดห้องพักให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเข้าพักโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการตอบแทนที่เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ เช่น ที่แก่งกระจานริเวอร์ไซด์รีสอร์ท
จากร่องรอยคราบน้ำที่เสาซุ้มอาหารรีสอร์ตพื้นที่ใต้เขื่อนแก่งกระจาน จะเห็นว่าน้ำมีระดับลดลงมากกว่า 5 ซม. ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีเริ่มลดลง แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการหรือผู้ที่อยู่ท้ายเขื่อนต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย