ทำเนียบรัฐบาล 9 ส.ค.-รมว.ทรัพย์ฯ เผยเตรียมประชุมหน่วยเกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาขยะอิเลคทรอนิคส์ 15 ส.ค.นี้ พร้อมให้พาณิชย์ออกประกาศสินค้าห้ามนำเข้า
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวในงาน Meet the Press reform together สร้างไทยไปด้วยกัน เกี่ยวกับมาตรการกำจัดขยะของภาครัฐต้องใช้ระยะเวลา เนื่องจากไม่เพียงคนไทย 67 ล้านคนยังมีนักท่องเที่ยวอีกกว่า 35 ล้านคนที่ทิ้งขยะจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามกำจัดขยะหลายวิธีโดยเฉพาะจุดตั้งต้นของการเกิดขยะ
“ได้นำร่องในส่วนราชการ 20 กระทรวงและใน 12 ห้างใหญ่รณรงค์งดใช้ถุงพลาสติกแต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่ตลาดสด ซึ่งได้ออกแคมเปญลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินผล ซึ่งการที่ดำเนินการในส่วนราชการก่อน เพื่อนำร่องให้ประชาชนปฎิบัติตาม โดยมีนโยบายลดการใช้โฟมและพลาสติกในหน่วยราชการให้มากที่สุด ซึ่งจากการสำรวจพบว่าไทยใช้มากกว่า 45,000 ชิ้นต่อปี ส่วนกระทรวงสาธารณสุขเริ่มด้วยการไม่ใส่ถุงพลาสติกให้แก่ผู้มารับยา โดยขอให้ใช้ถุงผ้าแทน ขณะที่ภาคเอกชนก็ขอความร่วมมือไม่ให้ใช้พลาสติกที่ซิลปากขวด ซึ่งสามารถลดปริมาณพลาสติกได้ 2,600ล้านชิ้นต่อปี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าว
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า แหล่งท่องเที่ยวถือเป็นจุดสำคัญที่เป็นต้นทางปัญหาขยะ ซึ่งใน 154 ทั่วประเทศ สวนสัตว์อีก 8 แห่งได้รณรงค์สร้างความตระหนักรู้ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดีของคนในพื้นที่และรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวพาขยะกลับบ้าน พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ปัญหาขยะทะเลเป็นปัญหาสำคัญ ซึ่งไทยมี 24 จังหวัดติดทะเล ขยะกว่าร้อยละ 80 มาจากบนบก อีกร้อยละ 20 มาจากกิจกรรมทางทะเล ซึ่งอยู่ระหว่างการรณรงค์และบังคับใช้กฎหมายเช่นกัน
“ส่วนขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่อยู่ในความสนใจของสังคม หลังจากพบว่า 7 บริษัทที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ กระทำผิด 5 บริษัท ซึ่งรัฐบาลได้ออกใบแดง ใครทำผิดต้องพักใบอนุญาตและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่ที่นำเข้าในประเทศ มาในรูปของขยะมือ 2 เช่น ตู้เย็น และโทรทัศน์ โดยพบว่าพฤติกรรมส่วนใหญ่ของคนไทยไม่นิยมใช้สิ่งของเหล่านี้ที่เป็นมือ 2 ทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น ผนวกกับไทยเองที่ในแต่ละปีผลิตขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า 400,000 ตัน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าว
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลแก้ปัญหานี้โดยยึดหลักสุขภาพของคนไทยและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญและต้องถูกกฎหมาย ไม่เกิดมลพิษต่อประเทศ 3 มาตรการ คือ 1.ควบคุมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น 2. ธุรกิจที่ก่อมลพิษจะต้องไม่ขยายวงกว้างและจะต้องเลิกกิจการในระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต 3. สนับสนุนการนำขยะกลับมาใช้ใหม่หรือส่งออกขยะ
“วันที่ 15 สิงหาคมนี้เตรียมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะนำข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี 2 ประเด็นแจ้งต่อที่ประชุมคือเรื่องการวางแผนรับมือกับขยะที่ปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี การกำจัดแผงโซล่าเซลล์และสำรวจพื้นที่ที่ถูกนำมาแยกขยะมีพิษของที่ไม่ถูกกฏหมาย ซึ่งจากการสำรวจในเบื้องต้นพบมีกว่า 10 แห่งทั่วประเทศ เช่นที่อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ที่ประชาชนไม่คำนึงถึงโทษของขยะมีพิษ นอกจากนี้จะให้กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศว่าสินค้าใดบ้างเป็นสินค้าห้ามนำเข้า.-สำนักข่าวไทย
