เพชรบุรี 8 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำจังหวัดเพชรบุรี ขอประชาชนติดตามข้อมูลรัฐ อย่าตื่นตระหนก ยืนยันรัฐบาลมีแผนจัดการน้ำจะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใช้เวลาทั้งวัน ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ติดตามดูการบริหารจัดการน้ำที่ไหลลงมาจากเขื่อนแก่งกระจาน
ช่วงเช้านายกรัฐมนตรีเดินทางมาที่เขื่อนเพชร อ.ท่ายาง ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งอธิบดีกรมชลประทานและ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฟังบรรยายสรุปล่าสุดปริมาณน้ำหลากไหลลงเขื่อนแก่งกระจาน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลล้นทางระบายน้ำสูง 33 เซนติเมตรลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน อยู่ที่ 730 ล้านลูกบาศเมตร จะมีปริมาณน้ำล้น สปิลเวย์ สูงสุดในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ โดยมีความสูงเหนือสปิลเวย์ ประมาณ 65 เซนติเมตร มีอัตราการไหล 106 ลูกบาศเมตร ต่อวินาที และเมื่อไหลผ่านเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีวันที่ 12 สิงหาคมจะทำให้มีน้ำเอ่อท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งและพื้นที่ชุมชน สูงเฉลี่ยประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร ระยะเวลาท่วมขังไม่เกิน 10 วัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ส่วนราชการ หน่วยงานในท้องถิ่นทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงถึงสถานการณ์น้ำ พร้อมแจ้งเตือนเพื่อให้มีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ ทั้งนี้ต้องเตรียมมาตรการให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นแผนการอพยพ และการบริหารจัดการน้ำ และขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าว ขอให้นำเสนอสถานการณ์น้ำตามข้อเท็จจริง อย่านำเสนอข่าวเกินความเป็นจริงเพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวล ยืนยันรัฐบาลมีแผนรับมือแล้ว
จากนั้นนายรัฐมนตรี ได้เดินทางไปดูประตูระบายน้ำคลอง D9 ซึ่งบริเวณดังกล่าวกรมชลประทาน กำลังใช้รถแบคโฮและรถบรรทุกขนดิน เร่งขยายคลองชลประทาน สายใหญ่ 3 ขวา 1 ซึ่งเป็นคลองชลประทานฝั่งขวาของเขื่อนแก่งกระจาน เชื่อมต่อกับคลอง D9 เพื่อใช้เป็นเส้นทางระบายน้ำ ด้วยการตัดน้ำเข้าระบบชลประทาน และผันออกคลองระบายน้ำ D9 ลงสู่ทะเลอ่าวไทย ที่หาดปึกเตียน ซึ่งจะสามารถระบายน้ำในจุดนี้ได้อีก 35 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าสู่ตัวเมืองเพชรบุรีได้.-สำนักข่าวไทย