ภูมิภาค 7 ส.ค.-ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี แจ้งเตือน 13 อำเภอ ถึงการระบายน้ำ 2 เขื่อนหลัก ขณะที่หลายจังหวัดติดริมน้ำโขงยังได้รับผลกระทบ แม้ระดับน้ำโขงลดลงแล้ว
นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ทำหนังสือด่วนที่สุดแจ้ง 13 อำเภอ ว่าปริมาณน้ำสะสมในเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นที่จะต้องมีการเพิ่มระดับการระบายน้ำ โดยเขื่อนศรีนครินทร์มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 20 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 6-12 สิงหาคม 2561
ส่วนเขื่อนวชิราลงกรณ์เพิ่มการระบายน้ำเป็น 43 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ขณะที่เขื่อนแม่กลอง ซึ่งเป็นจุดรับน้ำจากทั้งสองเขื่อนก็มีการระบายน้ำเพิ่มเป็นวันละ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำ ติดตามสถานการณ์การระบายน้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเก็บข้าวของและสิ่งของสำคัญต่างๆ ขึ้นไว้ในที่สูง
ในพื้นที่ จ.ระนอง มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำล้นตลิ่งและน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ อ.กะเปอร์ เจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนบริเวณริมคลองบางหิน ซึ่งน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นวงกว้าง ซึ่งหนักที่สุดในหมู่ที่ 2, 4 และ 5 ของ ต.บางหิน มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบราว 400 หลังคาเรือน
ที่ จ.บึงกาฬ สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลงอย่างต่อเนื่อง ที่จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ อ.เมืองบึงกาฬ ระดับน้ำอยู่ที่ 11.87 เมตร ลดลงจากช่วงเช้า 10 เซนติเมตร โดยภาพรวมทั้ง 4 อำเภอ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง สถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลาย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบึงกาฬสรุปพื้นที่ประสบภัยและผลกระทบจากแม่น้ำโขงที่เอ่อหนุนลำน้ำสาขา จำนวน 5 อำเภอ คือ อ.เมืองบึงกาฬ บุ่งคล้า ศรีวิไล ปากคาด และโซ่พิสัย มีผู้ที่ได้รับผลกระทบ 2,460 ครัวเรือน 8,160 คน
กรมทางหลวงชนบท โดยสำนักบำรุงทาง รายงานสถานการณ์อุทกภัยว่า ขณะนี้มีถนนทางหลวงชนบทประสบอุทกภัย 2 จังหวัด ได้แก่ จ.นครพนม และ จ.สกลนคร มีถนนที่ได้รับผลกระทบ 9 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ 2 สายทาง ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 7 สายทาง โดยแต่ละเส้นทางมีน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 5 เซนติเมตร ไปจนถึง 100 เซนติเมตร หน่วยงานในพื้นที่ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในการสัญจรเบื้องต้น
กรมทางหลวงชนบทขอความร่วมมือประชาชน “ขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย” ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม โปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ประสบกับอุทกภัย และโปรดสังเกตป้ายจราจรเตือนระดับน้ำหรือป้ายหลีกเลี่ยงเส้นทาง.-สำนักข่าวไทย