กทม. 7 ส.ค. – ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Siripol Sri หรือ นายศิริพล ศรีกาญจนเพริศ อายุ 50 ปี วิศวกรเคมีบริษัทแห่งหนึ่ง โฟสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่คลิปภาพหน้ารถของภรรยาที่บันทึกไว้เมื่อ 26 ก.ค.61 ขณะขับรถยนต์มาพร้อมกับลูกชายวัย 9 ขวบ ที่นั่งอยู่เบาะหลัง โดยขึ้นสะพานพระราม 4 จากห้าแยกปากเกร็ด ขับมาตามถนนบนสะพานในช่องขวาสุด ผ่านไปประมาณ 1 นาที ใกล้จะลงสะพาน ระหว่างนั้นโคมไฟบนหัวเสาหล่นลงมาที่ด้านหน้ารถ กระแทกกับหน้ารถได้รับความเสียหาย
” #เตือนภัยสะพานพระราม 4 ภรรยาผมไปรับลูกที่โรงเรียน ขากลับบ้านขึ้นสะพานพระราม 4 ขาออกลงถนนชัยพฤกษ์ ประสบอุบัติเหตุชนกับโคมไฟขนาดใหญ่มากบนสะพานซึ่งล่วงตกลงมาหน้ารถพอดี โชคดีมากครับ เพราะหากโคมไฟนี้ร่วงลงมาช้ากว่านี้สัก ครึ่งวินาที คงอัดใสกระจกหน้ารถฝั่งคนขับ ซึ่งไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาและลูกผม ปัจจุบันอยู่ระหว่างเรียกร้องค่าเสียหายกับกรมทางหลวงชนบทครับ ระวังด้วยนะครับ ขับรถข้ามสะพานนี้ โคมที่แขวนอยู่บนสะพานนี้น่าจะมีเกือบร้อยดวงตลอดระยะสะพาน”
หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ และส่งเรื่องร้องทุกข์ให้กับทางหลวงชนบท นายศิริพล ศรีกาญจนเพริศ เล่าว่า วันเกิดเหตุ ภรรยาขับรถไปรับลูกชายกลับจากโรงเรียนที่เมืองทอง และขึ้นสะพานพระราม 4 เพื่อกลับบ้านที่ถนนชัยพฤกษ์ เมื่อขับมาในช่องขวาสุดช่วงก่อนลงสะพาน มีวัตถุหล่นใส่รถเสียหาย ภรรยาและลูกไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่รถยนต์เสียหาย ด้านหน้าฉีกขาดเข้าซ่อมนานกว่า 20 วัน ในวันเกิดเหตุตนอยู่บ้านภรรยาโทรศัพท์มาบอกว่ารถชนกับอะไรไม่ทราบ จึงขับรถไปดู แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไร เพราะแตกละเอียด จึงได้โทรเรียกประกัน เมื่อกลับถึงบ้านจึงเปิดกล้องหน้ารถดูพบว่าเป็นโคมไฟของทางหลวงชนบทหล่นใส่หน้ารถ ภรรยาตนเห็นเหตุการณ์ในคลิปถึงกับร้องไห้ และบอกว่าโชคดีที่ไม่หล่นใส่รถ เพราะถ้าหล่นใส่รถลูกชายและภรรยาคงบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
วันต่อมาได้เข้าแจ้งความและได้โทรติดต่อไปที่ทางหลวงชนบท พร้อมทำหนังสือร้องทุกข์ไปที่ทางหลวงชนบท แต่ได้รับคำตอบว่าจะสางเรื่องไปตามขั้นตอน และต้องให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบก่อน โดยไม่มีคำตอบใดๆ ให้ เหตุการณ์แบบนี้เกิดกับใครก็ได้ที่ใช้รถใช้ถนน เพราะสะพานที่มีโคมไฟแบบนี้ใน กทม.และปริมณฑลมีมากกว่า 20 สะพาน ตนอยากให้เหตุกาณ์นี้เป็นตัวอย่างเพื่อเตือนประชาชนระมัดระวังเวลาขับขี่ และสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะมีมาตรการในการตรวจสอบ ซ่อมบำรุงและเยียวยาประชาชนที่ประสบเหตุมากกว่านี้ รถยนต์ของตนเสียหายซ่อมนานกว่า 20 วัน ต้องเช่ารถให้ภรรยาและลูกใช้อีกร่วมเดือน แต่ไม่มีหน่วยงานไหนรับผิดชอบ
ขณะที่นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความ อธิบายข้อกฎหมายและวิธีการเรียกร้องค่าเสียหาย ทราบว่าในทางกฎหมายแพ่ง ผู้ใดประมาทเลินเล่อกระทำต่อผู้อื่นให้ได้รับความเสียหายต้อชดใช้ค่าเสียหาย หรือตาม พ.ร.บ.ตามรับผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐกรณีละเมิด บอกว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐมีหน้าที่ดูแลรักษาซ่อมบำรุงอุปกรณ์ของหลวงและปรากฏว่าไม่ซ่อมบำรุงให้ดีพอจนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหายแก่ร่างกาย ชีวิตและทรัพย์สิน หน่วยงานของรัฐจะต้องชดใช้ แต่ปัญหาที่ตามมาคือหน่วยงานชองรัฐไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้โดยตรง ต้องให้ผู้เสียหายไปฟ้องต่อศาลปกครองหรือศาลแพ่งให้มีคำพิพากษาของศาลมาก่อนถึงจะจ่ายเงินเยียวยาได้ ผู้เสียหายต้องเก็บหลักฐานทุกอย่างที่เป็นค่าเสียหายไว้ยื่นต่อศาล ขั้นตอนอาจจะยุ่งยาก แต่สุดท้ายจะได้เงินคืน หากประสบเหตุแบบนี้ควรถ่ายรูปที่เกิดเหตุ ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน และใบเสร็จทุกอย่างที่จ่ายเกี่ยวกับความเสียหาย ยื่นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและยื่นฟ้องต่อศาล .- สำนักข่าวไทย




