หนองบัวลำภู 6 ส.ค.-คดีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ “น้องน้ำหวาน” ที่หนองบัวลำภู หลังประสบเหตุรถชนเสียชีวิต แต่ทว่าสภาพศพใส่กางเกงผิดด้านและกางเกงชั้นในหายไป ล่าสุดวันนี้ ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ และแม่ของผู้เสียชีวิตเข้าพบตำรวจเพื่อติดตามคดี ขณะที่ เพื่อนชายของ “น้องน้ำหวาน” สารภาพแล้วว่าได้มีเพศสัมพันธ์กันจริง
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วยนางหนูกรรณ์ (สงวนนามสกุล) มารดาของ “น้องน้ำหวาน” ชาว จ.หนองบัวลำภู พร้อมญาติ เดินทางเข้าพบผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู และนายตำรวจที่เกี่ยวข้องที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู สืบเนื่องจากวันที่ 19 กรกฎาคม “น้องน้ำหวาน” วัย 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยดังในกรุงเทพฯ เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ หลังชายหนุ่มที่เพื่อนเพิ่งรู้จักในสถานบันเทิงพาขับรถกลับบ้าน แต่ประสบเหตุชนต้นไม้ ทำให้ “น้องน้ำหวาน” เสียชีวิต
แต่พอครอบครัวนำศพลูกสาวกลับมาบำเพ็ญกุศล กลับสังเกตเห็นผู้ตายใส่กางเกงกลับด้าน และไม่ได้รูดซิป อีกทั้งไม่สวมกางเกงชั้นใน ซึ่งเบื้องต้นจากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์คนแรก ทราบว่าพบศพผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ด้านหน้า โดยไม่ได้รัดเข็มขัด และไม่พบคนขับรถในที่เกิดเหตุ ทำให้แม่ของผู้ตายติดใจในประเด็นการเสียชีวิตว่า อาจถูกฆาตกรรม หรือถูกกระทำชำเราก่อนเสียชีวิต หรือถูกฆ่าแล้วจัดฉากเป็นอุบัติเหตุอำพรางคดีหรือไม่ ที่สำคัญยังติดใจสาเหตุการตายที่ไม่เหมือนอุบัติเหตุ เพราะใบหน้าไม่มีรอยฟกช้ำหรือแผล แต่กลับคอหัก
ขณะเดียวกัน นายพลสันต์ หรือ “เอ็ม” อายุ 39 ปี ชาว อ.เมืองหนองบัวลำภู เพื่อนชายที่เป็นคนขับรถเก๋งสีดำพา “น้องน้ำหวาน” ประสบอุบัติเหตุ ให้การอ้างว่า เกิดอุบัติเหตุในวันดังกล่าวจริง เนื่องจากตนเองพักผ่อนไม่เพียงพอจนหลับใน โดยเหตุเกิดหลังออกมาจากสถานบันเทิงและกำลังพา “น้องน้ำหวาน” กลับบ้าน แต่สารภาพว่า ระหว่างทางได้จอดรถภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ก่อนมีเพศสัมพันธ์กับผู้ตายบนรถ และอ้างว่าเป็นการสมยอม ไม่ได้ขืนใจใดๆ
พล.ต.ต.ชนวีร์ ชมาฤกษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งขณะนี้ดำเนินคดีกับนายพลสันต์เพิ่มเติม คือ ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะหรือช่วยเหลือตนเองไม่ได้ จากเดิมที่แจ้งเพียงข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยหลังจากนี้หากผลทางนิติวิทยาศาสตร์ออกมาอย่างชัดเจน ก็จะพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก.-สำนักข่าวไทย