“สมคิด” สั่ง 14 สนง.บีโอไอต่างประเทศชักจูงลงทุนเชิงรุก

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. –  “สมคิด” มอบนโยบาย 14 สำนักงานบีโอไอต่างประเทศ เร่งชักจูงลงทุนเชิงรุกจากกลุ่มเป้าหมาย เน้นโครงการลงทุนเพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน  ลดเหลื่อมล้ำ และความยั่งยืน พร้อมเกลี่ยกำลังเจ้าหน้าที่ไปประเทศเป้าหมายมากขึ้น และใช้ AI ประมวลผลข้อมูลทำงานเป็นหน่วยงานแรกของประเทศ


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมหัวหน้าสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในต่างประเทศ ทั้ง 14 แห่ง พร้อมมอบนโบบายให้ชักจูงการลงทุน โดยให้เน้น 3 ด้านเท่ากัน คือ โครงการลงทุนที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ โครงการลงทุนที่ช่วยลดการเหลื่อมล้ำ และโครงการลงทุนที่เน้นความยั่งยืน พร้อมเพิ่มการดึงดูดการลงทุนกลุ่มบริการมากขึ้น เพราะปัจจุบันกลุ่มนี้มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 60 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แล้ว และมาตรการชักจูงการลงทุนจะต้องเป็นลักษณะที่เหมาะกับนักลงทุนเป้าหมายที่เห็นแล้วเข้ามาลงทุนในไทย 

สำหรับกลุ่มประเทศเป้าหมายดึงดูดการลงทุน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน เป็นต้น  และการที่ประเทศไทยอยู่ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านการดึงดูดการลงทุนจะเน้นอุตสาหกรรมไฮเทคอย่างเดียวไม่ได้ เพราะจะทำให้นักลงทุนเข้าใจผิดว่าต้องการแต่อุตสาหกรรมไฮเทค จึงขอให้บีโอไอปรับการดึงดูดการลงทุน โดยให้ยังคงดึงดูดกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมที่ประเทศไทยมีอยู่แล้วเอาไว้ เพื่อเป็นการรักษาฐานการลงทุนเอาไว้ แต่ต้องยกระดับและพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมเหล่านี้ให้ดียิ่งขึ้น บวกกับการดึงดูดกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ให้เข้ามาลงทุน


ส่วนกรณีที่บีโอไอ มีเจ้าหน้าที่รวม 300 คน ไม่เพียงพอนั้น สามารถขอเพิ่มเจ้าหน้าที่ได้ เบื้องต้นให้เกลี่ยกำลังเจ้าหน้าที่จากประเทศที่มีโอกาสชักจูงการลงทุนน้อยมายังประเทศเป้าหมายสำคัญที่มีโอกาสดึงดูดการลงทุนมากกว่า เช่น จีน ญี่ปุ่นตอนใต้ เกาหลีใต้ ฮ่องกงและไต้หวัน   พร้อมให้บีโอไอ ยึดเป็นนโยบายในการนำระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ  AI เข้ามาช่วยในการประมวลผลข้อมูลจากศูนย์ของบีโอไอทั่วโลกและเชื่อมโยงข้อมูลในการทำงานบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะปีนี้เป้าหมายการลงทุนของบีโอไอ คือ 720,000 ล้านบาท เท่ากับเจ้าหน้าที่ต่อคนดูแลถึงกว่า 2,000 ล้านบาท ในส่วนการชักจูงการลงทุนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ นักลงทุนยังไม่ยอมรับความเสี่ยงที่มีอยู่จะต้องทำข้อเสนอที่มีแรงจูงใจมากพอที่จะทำให้นักลงทุนสนใจเข้าไปลงทุนต่อไป 

นายสมคิด กล่าวว่า ในการชักจูงการลงทุนได้ขอให้เจ้าหน้าที่บีโอไอเริ่มจากการฉายภาพให้นักลงทุนเห็นถึงโอกาสที่จะได้รับจากการเข้ามาลงทุนในไทยที่ภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศมีที่ตั้งเป็นศูนย์กลางของกลุ่มความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง (ACMECS) และยังสามารถเชื่อมต่อกับโครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (One Belt, One Road) ของสาธารณรัฐประชาชนจีน และ Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership (CPTTP) ภายใต้การนำของญี่ปุ่น เป็นต้น จากนั้นให้เชื่อมโยงเข้ามาลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี 

ทั้งนี้ ยังขอให้บีโอไอ เตรียมมาตรการดึงดูดการลงทุนที่เหมาะสมกับกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่จะเข้ามาดูลู่ทางการลงทุนในไทยเร็ว ๆ นี้ ได้แก่ กลุ่มนักลงทุนจากจีนจะเข้ามาช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้  ญี่ปุ่นเดือนตุลาคมปีนี้ ซึ่งสนใจด้านนวัตกรรมและสตาร์ทอัพ ส่วนปีหน้านักลงทุนฮ่องกงจะเดินทางดูลู่ทางการลงทุนในประเทศไทยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์  


นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการบีโอไอ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบีโอไอชุดใหญ่ครั้งต่อไปเร็ว ๆ นี้ สำนักงานบีโอไอจะเสนอทบทวนมาตรการส่งเสริมการลงทุนกลุ่มบริการ โดยจะเพิ่มประเภทกิจการใหม่ ๆ มากขึ้น เช่น ดิจิทัลเซอร์วิส เป็นต้น เพราะขณะนี้นโยบายชุดใหม่ใช้ผ่านไป 3 ปีเศษแล้ว

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ไทยอยู่ในช่วงที่ดีมาก เพราะจากการเดินทางไปโรดโชว์ต่างประเทศกับรองนายกรัฐมนตรี พบว่าขณะนี้นักลงทุน เช่น ญีปุ่น เกาหลใต้ สหรัฐ และจีน  กำลังมองหาประเทศที่จะเข้ามาลงทุนใหม่ ซึ่งไทยมีโอกาสมาก ดังนั้น บีโอไอต้องปรับกำลังเจ้าหน้าที่รองรับให้เหมาะสม โดยญี่ปุ่นเห็นว่าการลงทุนในจีนประสบปัญหาต้นทุนที่แพง เกาหลีใต้ก็กำลังมองหาพื้นที่ลงทุนใหม่  นักลงทุนสหรัฐประสบปัญหาสงครามการค้ากับจีนกำลังหาพื้่นที่รองรับการลงทุนใหม่ ขณะที่นักลงทุนจากจีน กำลังมองหาพื้นที่การลงทุนตามนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เป็นต้น

สำนักงานต่างประเทศของบีโอไอทั้ง 14 แห่ง ประกอบด้วย สำนักงานฯ นครนิวยอร์ก และนครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา  นครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน  นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย กรุงโตเกียว และนครโอชากา ประเทศญี่ปุ่น  นครเซี่ยงไฮ้  กรุงปักกิ่ง และนครกวางโจว  สาธารณรัฐประชาชนจีน  กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้  เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย  และ สำนักงานฯ ไทเป  ไต้หวัน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

รวบเจ้าของหอพักโหดย่านรังสิต ข้อหากรรโชกทรัพย์

ปทุมธานี 28 พ.ค. – ตำรวจปทุมธานี บุกรวบเจ้าของหอพักย่านรังสิต พร้อมครอบครัว ข้อหากรรโชกทรัพย์ หลังมีนักศึกษาแจ้งความร้องทุกข์ว่า เจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกาย ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจปทุมธานี นำหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 27 พ.ค. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ เข้าจับกุม พ.ต.อ.พูลศักดิ์ อายุ 64 ปี นางพัชรียา อายุ 56 ปี และนางสาวพูลชนก อายุ 28 ปี ที่หอพักใน 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จากกรณีมีนักศึกษากว่า 20 ราย เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่ สคบ. ว่าเจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกายนักศึกษา ยึดเอกสารหลักฐานทางราชการ ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน บางจังหวะการจับกุมจะเห็นได้ว่ามีการโต้เถียงกันและมีการขัดขืน แต่สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อหมายจับ พล.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ตำรวจขอหมายจับจากศาลไป 3 […]

คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสี อบต.เกาะสะท้อน อส.-ครู เจ็บ 4

นราธิวาส 28 พ.ค. – คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสีต้านยาเสพติด อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้อาสาสมัครรักษาดินแดนบาดเจ็บ 3 คน ครูบาดเจ็บ 1 คน ส่วนเหตุคนร้ายยิงใส่ป้อมหน้า สภ.จะแนะ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าคนร้าย คนร้ายชุดสีดำเดินถือปืนเข้ามาในลานกีฬาเซปักตะกร้อ งานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด อบต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นรัวยิงชุดแรก 4 นัด คนที่ร่วมแข่งขันพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายรัวยิงอีก 3 นัด ซึ่งภาพหลุดจากวิถีกล้องไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายสุกรี ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน 2.อาสารักษาดินแดนฮัมดานุดดีน 3.อาสารักษาดินแดนมุสลิม และนายไซนุดดิน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ สอบสวนทราบว่าคนร้าย 6 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ 3 คัน ขี่เข้ามาโดยปะปนกับประชาชน และก่อเหตุยิงผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดจนมีผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุนายอำเภอตากใบลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ […]

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]