กาญจนบุรี 5 ส.ค. – นายจิระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมนายกเหล่ากาชาด เดินทางตรวจสภาพน้ำในลำน้ำแควน้อย ตั้งแต่ อำเภอเมืองไทรโยค และอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งใน 3 อำเภอ อยู่ในลำน้ำแควน้อย ที่เป็นแม่น้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณ ได้ปล่อยระบายน้ำลงมาในช่วงนี้เพิ่มมากกว่าปกติ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่น้ำจะต้องสูงขึ้น แต่น้ำไปถึงปลายสายที่เขื่อนแม่กลอง อำเภอท่าม่วง ระดับน้ำยังไม่สูงมากเกินแนวตลิ่งมากนัก โดยเฉพาะเขื่อนทดน้ำแม่กลอง ที่อำเภอท่าม่วง ยังระบายน้ำระดับปกติเพื่อรักษาระดับไว้ ถือว่าน้ำยังไม่มากเกินตลิ่งเท่าใดนัก ต้องดูทุกเขื่อนที่มีด้วย เช่น เขื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ เพราะกาญจนบุรี มีเขื่อนใหญ่ 2 เขื่อน ส่วนโครงสร้างของตัวเขื่อนทั้ง 2 แห่ง ยังอยู่ในขั้นปกติ ไม่น่าเกิดปัญหาอะไร มีการระบายน้ำก็ยังระบายออกท้ายเขื่อนอาจมากกว่าปกติเพื่อรักษาระดับในอ่างเก็บน้ำ และที่มีน้ำช่วงท้ายเขื่อนท่วม อาจจะเกิดจากมีฝนตกลงมากน้ำจึงเพิ่มมากกว่าปกติบ้างเป็นธรรมดา
และขณะนี้ยังไม่ถึงภาวะวิกฤติ และทางเขื่อนได้ประสานมาทุกเช้า ทุกเย็น ให้ทราบถึงปริมาณน้ำ โดยเฉพาะเขื่อนวชิราลงกรณ มีน้ำประมาณกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ยังสามารถรับน้ำได้อีก และทุกวันนี้มีน้ำไหลเข้าอ่างวันละ 80 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าอีก 2 -3 วันข้างหน้าจะปล่อยลงท้ายเขื่อนอีกวันละประมาณ 20-40 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อให้ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างช้าลง
ด้านนายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวยืนยันว่า น้ำจากลำห้วยบ้องตี้ที่ไหลบ่าทำให้ฝายน้ำล้น ซึ่งเป็นทางสัญจรของชาวบ้านหาดงิ้ว ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พังเสียหาย ไม่ได้เกิดจากการระบายน้ำของเขื่อนวชิราลงกรณ เนื่องจากลำห้วยบ้องตี้ ซึ่งเป็นลำห้วยหนึ่งที่ไหลลงแม่น้ำแควน้อยอยู่ในพื้นที่สูงกว่าแม่น้ำแควน้อย ค่อนข้างมาก น้ำจากแม่น้ำแควน้อยจึงไม่สามารถย้อนกลับไปยังลำห้วยบ้องตี้ได้ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากฝนที่ตกหนักในพื้นที่ทำให้น้ำในลำห้วยบ้องตี้ไหลบ่าเข้าท่วมที่บ้านหาดงิ้ว เบื้องต้นหน่วยงานราชการ ทหาร และ อบต.วังกระแจะ ได้เข้าให้ความช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว
สำหรับปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2561) เขื่อนวชิราลงกรณมีการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ จำนวน 36 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เนื่องจากยังคงมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยมีปริมาณน้ำกักเก็บจำนวน 7,434.69 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 84 ของความจุ ซึ่งเป็นระดับน้ำสูงกว่าเกณฑ์ควบคุม (Upper Rule Curve) ประมาณ 3.1 เมตร แต่ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 1,425 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำผ่านเว็บไซต์ WATER.EGAT.CO.TH หรือ www.vrk.egat.com และแอพพลิเคชั่น EGAT Water. -สำนักข่าวไทย