เร่งระบายน้ำจากเขื่อนช่วงฝนน้อย

ดอนเมือง  2 ส.ค. – กรมชลประทานเร่งพร่องน้ำออกจากเขื่อนที่มีน้ำเกินเกณฑ์เก็บกักในช่วงที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนน้อย ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 6 สิงหาคม และหากการระบายน้ำมีผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน รัฐมีนโยบายจะช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูต่อไป


นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขณะนี้มีเขื่อนขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำเกินเกณฑ์เก็บกัก (Upper Rule Curve) 11 แห่งจากทั้งหมด 35 แห่ง แต่ยังไม่มีเขื่อนใดน้ำเต็มความจุ ส่วนเขื่อนขนาดกลาง 412 แห่ง มีประมาณ 50 แห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เต็มความจุ กรมชลประทานได้พร่องน้ำไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่เนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดริมแม่น้ำโขง ได้แก่ หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร และอุบลราชธานี ส่วนตอนกลางของภาคมีฝนตกมากในจังหวัดกาฬสินธุ์กับสกลนคร ทำให้เขื่อนลำปาวที่กาฬสินธุ์และเขื่อนน้ำอูนที่สกลนครมีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำของเขื่อนมาก 

สำหรับแนวทางบริหารจัดการน้ำนั้น กรมชลประทานได้ระบายน้ำออกตลอดเวลา เพื่อป้องกันน้ำล้นและรักษาเสถียรภาพของเขื่อน  ล่าสุดกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะมีฝนน้อยลงบางพื้นที่จะปลอดฝน ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 2-6 สิงหาคมจะเร่งพร่องน้ำออก โดยระบายออกลำน้ำเดิม (River Outlet) เช่น น้ำจากเขื่อนน้ำอูนจะระบายสู่ลำน้ำอูนแล้วไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่นครพนม ส่วนน้ำจากเขื่อนลำปาวจะระบายออกสู่ลำน้ำปาวซึ่งไปเชื่อมกับลำน้ำ อีกทั้งเร่งผลักดันน้ำในลำน้ำชีซึ่งจะไหลไปบรรจบกับลำน้ำมูลที่อุบลราชธานีให้ออกสู่แม่น้ำโขงไปให้เร็วที่สุด กรมชลประทานได้นำเครื่องสูบน้ำไประดมสูบน้ำที่ท่วมขังพื้นที่เกษตรออกลำน้ำสาขาและใช้เครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายลงสู่แม่น้ำโขง ซึ่งขณะนี้เป็นจังหวะที่แม่น้ำมูลยังสูงกว่าแม่น้ำโขง ทำให้การระบายน้ำทำได้สะดวก แต่หากสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงสูงกว่าระดับน้ำในแม่น้ำมูลจะติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำและเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมอีกระยะต่อไป 


ล่าสุดพลเอกฉัตรชัย สาระกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมชลประทาน รวมถึงกรมการปกครอง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อรับฟังรายงานแผนการระบายน้ำจากเขื่อนที่มีน้ำมากเป็นรายเขื่อน ซึ่งกรมชลประทานจะระบายออกทั้งทางอาคารชลประทานด้วยการยกบานระบายเพิ่ม แขวนบานระบาย รวมถึงติดตั้งกาลักน้ำเพื่อดึงน้ำออกจากอ่างมากขึ้น นอกจากนี้ ยังกำชับว่าขอให้การระบายน้ำมีผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนน้อยที่สุด แต่หากมีความจำเป็นต้องมีบางพื้นที่ได้รับผลกระทบให้ทางอำเภอและจังหวัด รวมทั้ง ปภ.แจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าให้เฝ้าระวังและยกของขึ้นที่สูง จากนั้นรัฐมีนโยบายที่จะช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูต่อไป.-สำนักข่าวไทย

                                                                      


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม