เลือกทานอาหาร อุดมแคลเซียมกว่าพึ่งอาหารเสริม

กรมการแพทย์ 31 ก.ค.-กรมการแพทย์ แนะนำประชาชนควรได้รับแคลเซียมจากการรับประทานอาหาร และออกกำลังกายในช่วงเช้าเพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินดีจากแสงแดด ช่วยเสริมการดูดซึมแคลเซียมให้ร่างกาย ดีกว่าไปพึ่งอาหารเสริม


นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยให้ความใส่ใจและสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหาร ออกกำลังกาย ตลอดจนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ อาทิ วิตามินซี วิตามินบำรุงร่างกาย แคลเซียมฯลฯ ซึ่งในส่วนของแคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์แคลเซียมได้ จึงต้องรับมาจากอาหารผ่านการย่อยและดูดซึมที่ลำไส้เล็ก ซึ่งการดูดซึมแคลเซียมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ประมาณ ร้อยละ 20-25 เท่านั้น ส่วนที่เหลือจะขับถ่ายทิ้งไป 


อธิบดีกรมการแพทย์  กล่าวต่อว่า หน้าที่ของแคลเซียมนอกจากจะเป็นส่วนประกอบของกระดูกและฟัน  ยังซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ  ช่วยในการแข็งตัวของเลือด การทำงานของกล้ามเนื้อ ระบบประสาท ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์และควบคุมสมดุลของกรดและด่างในร่างกาย หากขาดแคลเซียมในเด็กจะทำให้เกิดโรคกระดูกอ่อน ทำให้การเจริญเติบโตของกระดูกผิดปกติ ถ้าในหญิงวัยหมดประจำเดือนจะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน และเป็นสาเหตุของโรคกระดูกเสื่อม นอกจากนี้ หากร่างกายขาดแคลเซียมอย่างรุนแรง อาจก่อให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อเกร็ง กระตุกและชัก เป็นต้น 


ด้าน นพ.สมพงษ์ ตันจริยภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลทำให้ร่างกายขาดแคลเซียม เช่น ได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ ไม่ออกกำลังกาย ดื่มกาแฟเกินขนาด ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนในหญิงวัยหมดประจำเดือน และมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน หรือเคยกระดูกหักมาก่อน โดยปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับในแต่ละวันตามช่วงอายุมีปริมาณไม่เท่ากัน โดยปกติผู้ใหญ่ที่อายุน้อย 40-50 ปี ควรได้รับแคลเซียม 800-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน อายุ 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับแคลเซียม 1,000-1,200 มิลลิกรัมต่อวัน หากอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปและผู้หญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับแคลเซียม 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมโดยไม่ต้องพึ่งอาหารเสริม ได้แก่ งาดำ (1 ช้อนโต๊ะมีแคลเซียม 132 มิลลิกรัม) กะปิ กุ้งแห้ง (1 ช้อนโต๊ะมีแคลเซียม 140 มิลลิกรัม) ปลาหรือสัตว์น้ำขนาดเล็กที่ทานได้ทั้งตัว เต้าหู้ นมและผลิตภัณฑ์จากนม พืชตระกูลถั่วและผลิตภัณฑ์จากถั่ว รวมถึง ตำลึง พริก กระถิน ใบยอ กะเพรา โหระพา กระเจี๊ยบ ผักกาดเขียว ผักกวางตุ้ง คะน้า เป็นต้น โดยเลือกรับประทานตามปริมาณที่เหมาะสม (ดังตาราง) รวมทั้งออกกำลังกายในช่วงเวลา 7 โมง ถึง 9 โมงเช้า เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินดีจากแสงแดดซึ่งเป็นตัวช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และที่สำคัญหากมีความจำเป็นที่จะต้องรับประทานแคลเซียมควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไม่ควรซื้อแคลเซียมมารับประทานเอง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แทงหนุ่มวิศวะ

จับได้แล้ว! เยาวชน 16 ปีมือแทงหนุ่มวิศวะดับชิงเสื้อช็อป

รวบ 3 โจ๋แทงหนุ่มวิศวะปี 4 ดับสลดขโมยเสื้อช็อป พร้อมยึดของกลางที่ใช้ก่อเหตุ มือแทงสารภาพอ้างอารมณ์ชั่ววูบ อยากขอโทษครอบครัวผู้ตาย บอกจะบวชให้หลังออกคุก

สธ.มอบฟันเทียม 45,000 ราย เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ

13 เมษายน วันผู้สูงอายุแห่งชาติ สธ.เปิดโครงการ “รอยยิ้มใหม่ผู้สูงวัย 2568” มอบฟันเทียม 45,000 ราย ส่งเสริมสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

วัยรุ่นรุมแทง นศ.วิศวะดับ ปล้นเสื้อช็อป-มือถือ

ตำรวจไล่เช็กวงจรปิดตามล่าแก๊งโจ๋นับสิบ หลังก่อเหตุสลด! รุมแทงนักศึกษาวิศวะเสียชีวิต ขณะขี่จักรยานยนต์กลับบ้าน ก่อนปล้นเอาเสื้อช็อปและมือถือหลบหนี

ค้นที่พักไฮโซเก๊ พบรูปภาพ-ชุดขาวประดับเครื่องหมายจัดเต็ม

ตำรวจกองปราบปรามขยายผลเพิ่ม ออกหมายจับไฮโซเก๊ อายัดตัวจากเรือนจำตรวจค้นที่พัก พบรูปภาพและชุดขาวประดับเครื่องหมายต่างๆ จัดเต็ม

ข่าวแนะนำ

เจ้าหน้าที่ลำคลอง​งู

“เฉลิม​ชัย” ย้ำดูแลครอบครัวเจ้าหน้าที่ ​อช.​ลำคลอง​งู เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่​

อธิบดี​กรมอุทยานฯ​ ยืนยันให้ความช่วยเหลือครอบครัวเจ้าหน้าที่อุทยาน​แห่งชาติ​ลำคลอง​งูเต็มที่ หลังเสียชีวิตขณะงมหามือถือให้นักท่องเที่ยว ที่ทำตกน้ำในถ้ำเสาหิน

เตือนระวังพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนโดยทั่วไปในภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคเหนือ เตือนระวังพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น