กรุงเทพฯ 30 ก.ค.- กรมชลประทานเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนแก่งกระจาน
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ปริมาตรน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรีจะเพิ่มสูงขึ้นอีก จากอยู่ที่ 624 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 88 ของความจุอ่าง เมื่อวานนี้เพิ่มเป็น 643.84 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น ร้อยละ 91 ของความจุอ่าง
กรมชลประทานจึงได้ติดตั้งท่อกาลักน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 10 ชุดเมื่อวานนี้ (29 กรกฎาคม) เพื่อเพิ่มการระบายน้ำจากวันละ 8.6 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็น 8.8 ล้านลูกบาศก์เมตร ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) คาดการณ์จะมีปริมาตรน้ำไหลลงอ่างฯช่วง 7 วันข้างหน้ารวม 62 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่จากการติดท่อกาลักน้ำเพิ่มรวมกับการระบายน้ำท้ายเขื่อนตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคมถึง 5 สิงหาคมจะระบายน้ำได้รวมคิดเป็น 61.40 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดการณ์วันที่ 5 สิงหาคม ปริมาตรน้ำจะอยู่ที่ 644.56 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 90.78 ซึ่งยังเกินเกณฑ์ควบคุม (Rule Curve) ที่กำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 70-80 เพื่อให้มีพื้นที่รองรับ หากมีฝนตกรวมอีกทั้งกรมอุตุนิยมคาดว่า จากนี้ไปจนถึงเดือนตุลาคมอาจมีพายุเข้าอย่างน้อย 1 ลูก ดังนั้นจะยังคงการระบายน้ำจากเขื่อนฯในอัตราวันละ 8.8 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อไปจนถึง 30 กันยายน
อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ได้เตรียมแนวทางปฏิบัติหากมีฝนตกในพื้นที่ตอนล่างจะพิจารณาตัดน้ำเข้าระบบชลประทานเพื่อควบคุมปริมาตรน้ำผ่านเขื่อนเพชรบุรีให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและไม่ให้มีผลกระทบกับพื้นที่การเกษตร ทั้งนี้กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อป้องกันอุทกภัยและรักษาความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน
ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำประมาณ 326 ล้าน ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 83 โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรีมีแผนที่จะระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปราณบุรีเพิ่มขึ้น ไปจนถึง 100 ลูกบาศก์เมตรวินาทีซึ่งจะทะยอยเพิ่มอัตราการระบาย หลังจากได้ระบายน้ำออกจากอ่างฯ ตั้งแต่วันที่ 19 – 29 กรกฎาคมโดยทะยอยระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปราณบุรีจาก 8 ลูกบาศก์เมตรวินาที ไปจนถึง 55 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีการระบายน้ำเข้าระบบชลประทานในอัตรา 27 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมปริมาณน้ำที่ระบายประมาณวันละ 7.14 ล้านลูกบาศก์เมตรซี่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำ
การระบายน้ำตามแผนดังกล่าวคาดว่า จะทำให้ระดับน้ำแม่น้ำปราณบุรีสูงไม่เกิน 1.70 เมตร แต่กรมชลประทานติดตามผลกระทบท้ายน้ำอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ได้มีการประสานแจ้งข้อมูลสถานการณ์น้ำไปยังจังหวัด อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกันกระจายข่าวแจ้งข้อมูลระดับน้ำให้ประชาชนทราบโดยทั่วกันทุกครั้ง ก่อนที่จะมีการเพิ่มอัตราการระบายน้ำและหากไม่มีฝนตกหนักมาเพิ่มเติม ปริมาตรน้ำในเขื่อนปราณบุรี จะลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ควบคุมภายในวันที่ 7 สิงหาคมนี้.-สำนักข่าวไทย