กรุงเทพฯ 30 ก.ค.- ก.เกษตรฯ สั่งการด่วนที่สุดให้ทุกหน่วยงานเร่งสำรวจความเสียหายและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรที่ประสบอุทกภัย
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งการด่วนที่สุดถึงปลัดกระทรวงเกษตรฯ และอธิบดีทุกกรม ให้เข้าช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะการดูแลและเฝ้าระวังพื้นที่ที่อาจประสบภัยน้ำท่วมเพิ่มเติมอย่างใกล้ชิดได้แก่ จังหวัดน่าน สกลนครและพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำโขงทั้งหมด พร้อมกับขอให้กรมชลประทานติดตามสภาพน้ำทุกลุ่มน้ำและให้สำนักงานชลประทานพื้นที่ประสานกับศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC ) เพื่อบริหารจัดการน้ำตลอดเวลา สำหรับกรมส่งเสริมการเกษตรให้แจ้งสำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัด เร่งสำรวจความเสียหายของพื้นที่เกษตรจากน้ำท่วม ดินโคลนถล่มและการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่เกษตรกรในด้านต่างๆ ทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง
นายกฤษฎาย้ำว่า การจัดหาปัจจัยการผลิตแจกจ่ายให้แก่เกษตรกรนั้น ขอให้คำนึงถึงคุณภาพและปริมาณรวมทั้งการดำเนินการจัดซื้อให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัดทุกขั้นตอน หากมีการร้องเรียนและตรวจสอบพบว่า มีการทุจริต กระทรวงจะพิจารณาลงโทษอย่างเฉียบขาด
นอกจากนี้ให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดในพื้นที่ประสบภัยเรียกประชุมคุณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ (อพก.) เพื่อจัดทำแผนการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเป็นระบบโดยกำหนดพื้นที่และหน่วยงานรับผิดชอบประจำพื้นที่ให้ชัดเจนรวมทั้งการส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ความช่วยเหลือตามลำดับความจำเป็นเร่งด่วนและสถานการณ์ในพื้นที่ตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดด้วย
ทั้งนี้ได้สั่งการให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงและผู้ตรวจราชการกรมทุกเขตออกไปตรวจติดตามการปฎิบัติงานช่วยเหลือเกษตรกรของหน่วยงานในพื้นที่อย่างโดยใกล้ชิดเพื่อแนะนำการปฎิบัติงานและหากพบปัญหาที่เกินขีดความสามารถของหน่วยงานในพื้นที่จะดำเนินการได้ให้รายงานปลัดกระทรวงทราบเพื่ออำนวยการแก้ไขปัญหาต่อไป
นายกฤษฎากล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความห่วงใยเกษตรกรทั่วประเทศเนื่องจากมีพื้นที่ประสบอุทกภัยหลายจังหวัด อีกทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศตั้งแต่วันนี้ (30 ก.ค.) ว่า จะมีฝนตกชุกและตกหนักในหลายพื้นที่ อาจเกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่มได้ หน่วยงานกระทรวงเกษตรฯ ในทุกพื้นที่จึงต้องประสานงานกับทางอำเภอและจังหวัด อีกทั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.) และในพื้นที่อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกัน บรรเทา และเยียวยาเกษตรกรที่อาจได้รับความเดือดร้อน.-สำนักข่าวไทย