กนอ.เตรียมแผนรับมือน้ำท่วม

กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – กนอ.เตรียมแผนรับมือน้ำท่วม 55 นิคมฯ ทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวัง 3 นิคมฯ เสริมคันดิน-ประตูกั้นน้ำ ร่วมกรมชลฯ ตั้งศูนย์รายงานแบบเรียลไทม์


นายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา รักษาการผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า จากสภาวะที่ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น มีฝนตกหนักบางแห่งกับลมกรรโชกแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2561 รวมถึงการคาดการณ์ของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) ที่เปิดเผยว่าปริมาณน้ำฝนปี 2561 จะมากกว่าปกติ โดยเฉพาะเดือนสิงหาคม-ตุลาคมที่ปริมาณน้ำฝนจะมากกว่าค่าเฉลี่ยประมาณร้อยละ 10 ซึ่งพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง ได้แก่ พื้นที่ลุ่มทั้งหมด อาทิ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่นและสกลนคร แถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สุโขทัย สุพรรณบุรี อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และกรุงเทพมหานคร รวมถึงพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก 28 พื้นที่


นายอัฐพล กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้น กนอ.จึงได้กำชับให้นิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศทั้ง 55 แห่ง เตรียมพร้อมเกาะติดสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและให้ยกระดับแผนปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินเพื่อป้องกันอุทกภัยของแต่ละนิคมฯ พร้อมทั้งให้เฝ้าระวังดำเนินการตามมาตรการภาวะฉุกเฉินอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งชาวไทย และต่างชาติ รวมถึงชุมชนรอบนิคมฯ โดยเตรียมความพร้อมในการป้องกันน้ำท่วมเฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ทุกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมตรวจสอบทั้งด้านเทคนิคและกายภาพ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของคันป้องกันน้ำท่วม และประสิทธิภาพของระบบระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอ และเตรียมความพร้อมในส่วนอุปกรณ์ให้เพียงพอ รวมถึงความพร้อมของสถานีสูบน้ำ เครื่องสูบน้ำ ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชม. รวมทั้งความพร้อมของเขื่อนติดตั้งเร็ว  

สำหรับการเตรียมความพร้อมแผนป้องกันน้ำท่วมของนิคมฯ ทั้ง 3 แห่ง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ นิคมฯ บางปะอิน นิคมฯ บ้านหว้า และนิคมฯ สหรัตนนคร ซึ่งถือเป็นพื้นที่ราบลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมมากที่สุด กนอ.ได้ให้นิคมฯ ทั้ง 3 แห่ง ทำการตรวจสอบและเสริมความแข็งแรงของเขื่อนดินกั้นน้ำรอบนิคมอุตสาหกรรมซึ่งมีความสูงเฉลี่ย 5.4 – 7.5 เมตร พร้อมกับให้ทั้ง 3 นิคมฯ จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำ โดยร่วมมือกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด พร้อมกับร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลการระบายน้ำจากทั้ง 3 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระรามหก รวมทั้งการติดตามปริมาณน้ำฝน จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา และข่าวสารสถานการณ์ในพื้นที่ จากคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประจำทุกวัน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ทำการสำรวจ ตรวจสอบ ซ่อมแซมและบำรุงรักษา ความมั่นคง แข็งแรง ของคันป้องกันน้ำท่วมนิคมฯ และตรวจสอบระดับน้ำ โดยรอบแนวถนนทางหลวงระยะทาง 32.5 กิโลเมตร เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท