สำนักงานพรรคพลังธรรมใหม่ 27 ก.ค.-หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ จี้ กกต.อนุมัติพรรคการเมืองใหม่ หวั่นล่าช้า กระทบสมัคร ส.ส.พรรค ชี้ “พล.อ.ประยุทธ์” เดินสาย ครม.สัญจรเป็นการหาเสียง เรียกร้องความเป็นธรรมปลดล็อคทางการเมือง
นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงสถานภาพของพรรคพลังธรรมใหม่ ว่า ได้ประชุมพรรคไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 และได้รวบรวมข้อมูลยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปแล้ว ซึ่ง กกต.ระบุว่าจะตรวจสอบเสร็จภายใน 45 วัน แต่ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ โดย กกต.ยอมรับมีพรรคการเมืองจำนวนมาก และต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ทำให้เกิดความล่าช้า และถ้ายังไม่อนุมัติ ทางพรรคไม่สามารถหาสมาชิกได้ ดังนั้นขอเรียกร้องให้ กกต.เร่งดำเนินการ เพราะมีพรรคที่ยื่นขอจดจัดตั้งพรรคจำนวนมากและยังไม่ได้จัดประชุมพรรค เพราะหากล่าช้าจะมีปัญหาเรื่องผู้สมัคร ส.ส.ที่ต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคล่วงหน้า 90 วัน ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้ง
นพ.ระวี ยังกล่าวถึงกรณีกลุ่มการเมืองเดินสายดูด อดีต ส.ส. ว่า ไม่ได้กระทบกับพรรคพลังธรรมใหม่ เพราะไม่มี ส.ส.ให้ดูด แต่พรรคก็พยายามไปทาบทาม ส.ส.เข้ามา โดยตั้งเป้าชัดเจนว่าใครต้องการเป็น ส.ส.ในพรรคที่เป็นพรรคการเมืองของประชาชน และต้องการสร้างการเมืองใหม่ ซึ่งวันนี้เรามีผู้สมัคร ส.ส.ที่คัดไว้ 70-100 คน และคาดว่าในเดือนกันยายนจะครบจำนวน เพื่อให้ลงสมัครได้ครบทุกเขตเลือกตั้ง
นพ.ระวี ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ประชุม ครม.สัญจร ว่า แม้จะบอกว่าไม่ได้หาเสียง แต่ความจริงคนทั้งประเทศรู้ว่าทำอะไรอยู่ ทั้งนี้หากจะให้ความเป็นธรรมกับทุกพรรค นายกรัฐมนตรีก็ควรปลดล็อคทางการเมืองก่อน เพราะการประชุม ครม.ก็คือการหาเสียง ส่วนนายกรัฐมนตรีจะแสดงตัวชัดเจนว่าจะลงสู่สนามเลือกตั้งหรือไม่นั้น ถือเป็นสิทธิ ซึ่งตนมองว่าวันนี้ยังไม่เป็นธรรม เพราะฝ่ายหนึ่งสามารถเคลื่อนไหวได้ แต่อีกฝ่ายกลับเคลื่อนไหวไม่ได้ ซึ่งในทางกลับกันอาจจะเป็นประโยชน์กับพรรคคู่ต่อสู้ได้ เพราะเป็นโอกาสให้ประชาชนเห็นใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีหลายพรรคการเมืองแสดงตัวว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี อีกสมัย ในส่วนของพรรคพลังธรรมใหม่จะมีจุดยืนเรื่องการเสนอนายกรัฐมนตรี อย่างไร นพ.ระวี กล่าวว่า พรรคมีจุดยืนชัดเจนว่าต้องการคนดีเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นหลังการเลือกตั้ง พรรคจะเสนอคนของพรรค 3 รายชื่อขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หากพรรคไม่มีโอกาส ก็ต้องยอมรับความเป็นจริง ซึ่งเมื่อถึงเวลาพรรคจะต้องตัดสินใจเลือกคนดีที่สุด
“ในวันนั้น ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะเป็นใคร เมื่อเกิดการแข่งกัน เราก็จะเลือกคนที่ดีที่สุด ซึ่งทางพรรคจะใช้รูปแบบให้สมาชิกพรรคทั่วประเทศเป็นผู้ลงมติภายในพรรคว่าจะเลือกข้างไหน และพรรคไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร และเป็นมิตรกับทุกพรรค พรรคใดที่พิสูจน์ตัวเองได้ ทางสมาชิกก็ยินดีที่จะเลือก แต่ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นใคร” นพ.ระวี กล่าว.-สำนักข่าวไทย