สำรวจความเสียหายเมืองสะหนามไซ หลังสันเขื่อนแตก

สปป.ลาว 26 ก.ค. – สำนักข่าวไทยได้รับอนุญาตจากทางการแขวงอัตตะปือ สปป.ลาว ให้เข้าไปทำข่าวที่เมืองสะหนามไซ ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สันเขื่อนพังได้ ตอนนี้ทางการลาวได้อพยพประชนชนมายังที่ปลอดภัยได้ทั้งหมดแล้ว


เส้นทางจากแขวงอัตตะปือ มายังเมืองสะหนามไซ เมืองที่ได้รับผลกระทบจากสันเขื่อนดินพัง เส้นทางลำบาก เป็นทางลูกรัง มีหลุมบ่อตลอดเส้นทาง บางจุดแคบเป็นสะพานไม้ ทีมข่าวเดินทางระยะทาง 35 กิโลเมตร จากแขวงอัตตะปือมายังเมืองสะหนามไซ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง รถที่จะผ่านเส้นทางนี้ได้ต้องเป็นรถกระบะ หรือรถยนต์ยกสูงเท่านั้น ดังนั้นการนำสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจึงค่อนข้างลำาบาก ต้องทยอยลำเลียง 


ที่เทศบาลสะหนามไซได้ตั้งเป็นกองอำนวยการช่วยเหลือประชาชน เป็นจุดที่สื่อทุกคนทุกสำนักต้องมาลงทะเบียนเมื่อเข้าพื้นที่ และเป็นจุดรับบริจาค เป็นสถานที่ประกอบอาหารเพื่อกระจายไปยัง 3 จุดอพยพ


ประชาชนหลายร้อยคนตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ ต้องอาศัยอาคารเรียนเป็นที่พักพิงชั่วคราว สภาพค่อนข้างแออัด มีแพทย์จากแขวงอัตตะปือคอยดูแลด้านสุขภาพ และมีผู้นำสิ่งของมาบริจาคที่นี่อย่างต่อเนื่อง นายบุญตา ไชยวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านท่าหิน เล่าว่า ชาวบ้านบางส่วนกำลังทยอยอพยพมาที่นี่ ทุกคนบ้านพังเสียหายทั้งหลัง

เมืองสะหนามไซ มีหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบหนัก 6 หมู่บ้าน คือ บ้านโคกก่อง บ้านใหม่ บ้านท่าหิน บ้านท่าแสงจันทร์ บ้านหินลาด และบ้านสมอง ตลอดการถ่ายทำข่าวของสำนักข่าวไทย มีท่านวีไลทอง วงค์จันทร์หอม รองหัวหน้าห้องการแถลงข่าวเมืองสะหนามไซ คอยอำนวยความสะดวก ตอนนี้มีสื่อจีนเข้ามาทำข่าวในพื้นที่บ้างแล้ว 

วันนี้ทีมข่าวยังไม่สามารถเดินทางไปยังหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมได้ เพราะทางกองทัพลาวยังไม่อนุญาต เนื่องจากเส้นทางแคบ รถวิ่งสวนไม่ได้ หากเข้าไปอาจกระทบกับการช่วยเหลือประชาชน

ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ห้องการแถลงข่าวเมืองสะนามไซ ขณะนี้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบได้อพยพมาอยู่ในที่ปลอดภัยทั้งหมดแล้ว มีอยู่ราว 1,000 คน ที่อยู่บริเวณเชิงเขายังออกมาไม่ได้ ทางการต้องลำเลียงเสบียงไปส่งทางเฮลิคอปเตอร์เท่านั้น แต่จุดนั่นเป็นจุดที่ปลอดภัย

และนี้คือภาพที่ทีมข่าวได้รับความอนุเคราะห์จากโทรภาพแขวงอัตตะปือ เป็นภาพสภาพพื้นที่ในวันแรกที่เกิดเหตุ และเป็นภาพความช่วยเหลือของทางการลาวที่เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ