กทม. 25 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมใน สปป.ลาว ขณะนี้ สาเหตุหลักเกิดจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องปริมาณน้ำที่มากเกินไป ทำให้เขื่อนดินย่อยเกิดรอยร้าวและแตก น้ำจำนวนมหาศาลไหลทะลักลงสู่ท้ายเขื่อน สร้างความสูญเสียต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก
เขื่อนดินดังกล่าวอยู่ห่างจากประเทศไทย จ.อุบลราชธานี ประมาณ 200 กิโลเมตร อยู่ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย ตั้งอยู่ที่แขวงจำปาสัก ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นโครงการร่วมทุนต่างชาติ 3 ประเทศ คือ เกาหลีใต้ ไทย และ สปป.ลาว ตั้งเป้าจะผลิตกระเเสไฟฟ้า 410 เมกะวัตต์ ในปีหน้าโดย 354 เมกะวัตต์ จะจำหน่ายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และอีก 40 เมกะวัตต์ สำหรับการไฟฟ้าลาว โดยมีระยะเวลาสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างไทย-ลาว 27 ปี ซึ่งขณะนี้โครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าไปกว่า 90%
ภาพรวมของโครงการดังกล่าว มีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง คือ ฝายห้วยหมากจัน เขื่อนเซเปียน และเขื่อนเซน้ำน้อย โดยขุดเจาะอุโมงค์ผันน้ำในแนวราบ และแนวดิ่งสูง ทำให้เพิ่มระดับความสูงของน้ำ เพื่อสร้างแรงดันน้ำในการหมุนกังหันผลิตไฟฟ้าโดยใช้ปริมาณน้ำน้อย
นอกจากนี้ยังสร้างเขื่อนลักษณะที่เรียกว่า เขื่อนดินปิดช่องเขาต่ำ หรือที่เรียกว่า saddle dam ซึ่งเป็นเขื่อนเสริมพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรวบรวมน้ำในอ่างเก็บน้ำที่เกิดจากเขื่อนหลัก เพื่อให้สามารถยกระดับน้ำให้สูงขึ้นและเก็บน้ำได้ ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 5 เขื่อน ประกอบไปด้วยเขื่อน A C D E F โดยเขื่อนที่เกิดทรุดตัวและแตกทำให้เกิดเหตุน้ำท่วม คือเขื่อน D
ข้อมูลจากบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้ร่วมทุนจากประเทศไทย ชี้แจงว่าเหตุกาณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.00 น. ของวันจันทร์ที่ 23 ก.ค. เขื่อนดินย่อยกั้นช่องเขา ส่วน D ที่มีขนาดสันเขื่อนกว้าง 8 เมตร ยาว 770 เมตร และสูง 16 เมตร เกิดการทรุดตัว ส่งผลให้สันเขื่อนดินย่อยดังกล่าวเกิดรอยร้าว และน้ำไหลออกสู่พื้นที่ท้ายน้ำ และลงสู่ลำน้ำเซเปียน ที่อยู่ห่างจากพื้นที่เขื่อนประมาณ 5 กิโลเมตร ทำให้มวลน้ำราว 600 ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างน้อย 7 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านท่าบก หินลาด สมอใต้ ท่าแสงจัน ท่าหินใต้ ท่าบก ท่าม่วง ซึ่งมวลน้ำขนาดนี้เทียบกับเขื่อนในประเทศไทยที่มีขนาดความจุใกล้เคียงกันคือเขื่อนลำตะคองเต็มความจุได้ถึง 2 เขื่อน ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงไม่น้อยกว่า 15 เมตร สำหรับเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นใน สปป.ลาวครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทย. – สำนักข่าวไทย