เผยเอสเอ็มอีจดทะเบียนยอดขายเพิ่มกำไรพุ่ง

กรุงเทพฯ  25 ก.ค. – ม.หอการค้าไทยเผยผลสำรวจเอสเอ็มอีจดนิติบุคคลแล้วรุ่ง ยอดขายเพิ่มร้อยละ  40 กำไรพุ่งร้อยละ 32.7


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจความคุ้มค่าของการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลอิงข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่า มีสถานประกอบการที่ยื่นจดทะเบียนนิติบุคคล  700,000-800,000 ราย ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 2.5 ล้านราย โดยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกว่า 1.75 ล้านราย หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ยังไม่ยอมจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล กลุ่มนี้จึงน่าเป็นห่วง เนื่องจากความช่วยเหลือจากภาครัฐผ่านมาตรการต่าง ๆ  ไม่สามารถไปถึงผู้ประกอบการเหล่านี้ได้

ทั้งนี้ จากการสำรวจเอสเอ็มอีทั่วประเทศ 1,250 ตัวอย่าง ต่อสถานการณ์ปัจจุบันของธุรกิจ เทียบกับปีที่ผ่านมา ระหว่างเอสเอ็มอีที่จดทะเบียนกับเอสเอ็มอีไม่จดทะเบียน จะเห็นว่าเอสเอ็มอีที่จดทะเบียนมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ  40.7  กำไรดีขึ้นร้อยละ  32.7 ราคาสินค้าปรับตัวดีขึ้นร้อยละ  24.2 และสภาพคล่องของธุรกิจปรับตัวดีขึ้นร้อยละ  27.4  ขณะที่เอสเอ็มอีที่ไม่จดทะเบียนนิติบุคคล มีการปรับตัวดีขึ้น/เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ต่ำกว่า ด้านความต้องการสินเชื่อ เอสเอ็มอี ส่วนใหญ่ร้อยละ  29.92 ระบุว่า ปัจจุบันต้องการสินเชื่อ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจร้อยละ  32.56  ลงทุนเพิ่มร้อยละ 9.52 ใช้จ่ายทั่วไปร้อยละ  6.48 ชำระหนี้เก่าร้อยละ  5.36 และอื่น ๆ ร้อยละ 0.48


นอกจากนี้ ยังพบว่า 5  ปัจจัยแรกที่ทำให้ผู้ประกอบการไม่ยอมจดทะเบียนนิติบุคคลมาจากกลัวการถูกเก็บภาษีถึงร้อยละ  43  ระยะเวลาจดทะเบียนหรือไม่มีเวลาไปจดทะเบียนร้อยละ  40.5  ได้รับการบอกเล่าที่ไม่ดีจากการจดทะเบียนร้อยละ  40.2 การจดทะเบียนนิติบุคคลทำได้ยาก-เอกสารเยอะถึงร้อยละ  38.4 และการเป็นนิติบุคคลจะถูกกรมสรรพากรตรวจสอบได้ละเอียดร้อยละ 38.2 ส่วนข้อเสนอต่อรัฐบาลที่จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนนิติบุคคล ได้แก่ ไม่ตรวจสอบบัญชีย้อนหลัง  ลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียน  เมื่อเกิดวิกฤติธุรกิจต้องได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ  ให้ความรู้ด้านบัญชีและการจดทะเบียน  ให้ความมั่นใจและความคุ้มค่ากับเจ้าของกิจการว่าหากจดทะเบียนแล้วจะได้รับประโยชน์อย่างไร รวมทั้งเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการจดทะเบียนให้เพิ่มมากขึ้น  ลดความยุ่งยากของขั้นตอนการจดทะเบียนและขยายเวลาเก็บเอกสาร ลดหย่อนภาษีและอัตราดอกเบี้ย และอำนวยความสะดวกในการติดต่อประสานงานต่าง ๆ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ