บีโอไอ 21 ก.ย. – นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ประชุมร่วมกับผู้บริหาร สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างของบีโอไอ และการให้สิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย การผลักเขตเศรษฐกิจพิเศษ และนโยบายไทยแลนด์ 4.0 รวมถึงยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน 7 ปี (2558-2564) โดยจะสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (2560-2579) เพื่อปรับเปลี่ยนภารกิจจากเดิมดูแลเป็นรายสาขา เช่น กลุ่มเกษตร กลุ่มยานยนต์ เปลี่ยนมาเป็นยานยนต์แห่งอนาคต จึงมอบหมายนายสุวิทย์ เมษิณทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)และบีไอบี เพื่อวางโครงสร้างใหม่ของบีโอไอในการเชื่อมโยงการลงทุนจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วง 3 เดือนข้างหน้า รัฐบาลเตรียมออกไปโรดโชว์และเจรจาการลงทุนกับประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน เพราะที่ผ่านมาเน้นเฉพาะจีน ญี่ปุ่น ขณะที่ 3 ประเทศดังกล่าวเน้นพัฒนาผู้ประกอบการตรงกับ 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย และขณะนี้สิงคโปร์เริ่มขยายการส่งเสริมลงทุนเพิ่มจากนอกจากกลุ่มไฟแนนซ์ไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เพราะขณะนี้สภาพคล่องไหลอยู่ในเอเชียมากที่สุดในโลก จึงต้องเร่งออกไปเจรจากับสิงค์โปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน เพราะหากไม่เร่งออกไปเจรจาการลงทุนเวียดนามจะแซงหน้าไปก่อนไทย นอกจากนี้ ยังเตรียมเดินทางไปเจรจาการลงทุนในยุโรปร่วมกับรัฐบาลฝรั่งเศสและเยอรมนีระหว่างวันที่ 4-8 ตุลาคม เพื่อสรุปแนวทางความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน เนื่องจากรัฐบาลต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการ
นอกจากนี้ ยังมีการหารือเรื่องของการกำหนดหน่วยงานใหม่ภายในองค์ของบีโอไอ ภายใต้แผนปรับโครงสร้างรองรับกับภารกิจงานใหม่ของรัฐบาล อาทิ กองบริหารการลงทุน 5 กองส่งเสริมการลงทุนไทยและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม และเพิ่มสำนักงานต่างประเทศ 3 แห่ง ที่เมียนมาร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยทั้ง 3 หน่วยงานขึ้นตรงต่อเลขาธิการบีโอไอ เพื่อความคล่องตัวในการบริหารและอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน สำหรับเป้าหมายอนุมัติส่งเสริมลงทุนจากบีโอไอประมาณ 500,000 ล้านบาทในปีนี้ต้องทำงานให้ได้อย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย