เวทีเสวนาชี้ยังควรเดินหน้าไพรมารีโหวต

สถาบันพระปกเกล้า 12 ก.ค. – เวทีเสวนาทางวิชาการ ชี้ยังควรเดินหน้าไพรมารีโหวต แม้ยอมรับวิธีการอาจนำมาซึ่งปัญหา  “สมชัย” ค้านแนวคิดทำไพรมารีเป็นภาค ประเทศไทยไม่ใช่ของเล่น   ชี้ดูด สส. ทำลายระบบไพรมารีโหวต   ด้าน “นิกร”  ย้ำพรรคเล็กทำไพรมารีโหวตไม่ได้  แต่ควรเดินหน้า แต่ทำไพรมารีจากเขตเป็นระบบภาคหรือจังหวัดแทน


 วิทยาลัยการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า  จัดงานเสวนาวิชาการ หัวข้อ  การเมืองไทยกับระบบไพรมารีโหวต : ทางออกการเลือกตั้งหรือทางตันประชาธิปไตย   โดยมีนายสมชย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.  นายนิกร จำนง ผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา   และนายยุทธพร  อิสรชัย  อาจารย์รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ร่วมเวที

นายสมชัย กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้มีการออกแบบไพรมารีโหวตมาใช้ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และนำรูปแบบในประเทศตะวันตกมาปรับใช้  ซึ่งการออกแบบไพรมารีโหวตในประเทศไทย อาจออกแบบโดยปัญญาเพื่อแก้ปัญหา   และอีกส่วนออกแบบมาโดยการเอาใจ  มีอคติ เอาเปรียบให้ตัวเองได้เปรียบมากที่สุด  เพื่อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่    ดูจากการกำหนด เรื่องหมายเลขผู้สมัคร จากหมายเลขเดียวกัน เป็นหมายเลขต่างกัน    บัตรเลือกตั้งจากสองใบ เป็นใบเดียว   


นายสมชัย ยังเห็นว่า จากการที่เขตเดียวสามารถกำหนดผู้สมัครทุกเขตได้   ทำให้ระบบไพรมารีโหวตเป็นแค่พิธีกรรม ไม่ได้ทำให้ได้ตัวแทนประชาชนในแต่ละจังหวัดอย่างแท้จริง  แต่เป็นกระบวนการในเชิงหลอกลวง  ว่ามีระบบนี้แล้วเป็นประชาธิปไตยแล้ว  กระบวนการไพรมารีโหวต จึงอาจจะเป็นพระเอกในตอนต้นแต่กลายเป็นผู้ร้ายในภายหลัง   ทั้ง ๆ ที่ผู้ร้ายตัวจริง คือผู้เขียนกฎหมายที่มีการเกรงใจพรรคเล็กทำไม่ได้  ทำให้มีการผ่อนปรนในบทเฉพาะกาลทำให้หลักการที่ดี กลายเป็นแค่พิธีกรรม  จึงเห็นว่าไพรมารีโหวตคล้ายจะเป็นทางออกประชาธิปไตย  แต่จะเป็นทางตัน  เพราะเป็นการสร้างภาระให้พรรคการเมือง  แต่ไม่ได้ให้ผลที่คุ้มค่า  ทั้งนี้ กกต.เคยคำนวณว่ากระบวนการได้มาตามระบบไพรมารีโหวตจะใช้เวลาประมาณ 20-30 วัน  แต่ไม่รวมกรณีมีการพิจารณาของกรรมการบริหารพรรค 

นายสมชัย กล่าวว่า  ตอนนี้มีข้อเสนอว่าถ้าทำรายจังหวัดไม่ได้ให้ทำไพรมารีโหวตรายภาค   ซึ่งส่วนตัวไม่เห็นด้วย เราต้องช่วยกันทำให้ระบบนี้มีความเข้มแข็งและปฏิบัติได้จริง  หากคิดว่าการทำครั้งแรกอาจไม่สมบูรณ์  เป็นบทเรียนให้ปรับปรุงแก้ไขในคราวหน้าก็ไม่ว่ากัน    

“จุดยืนของผม จึงเห็นว่าไม่ควรยกเลิกหรือลดทอนรูปแบบลง  ต้องทำอย่าถอดใจหรือถอย  แต่หากคนที่คิดจะถอยหากมาจาก สนช. กรธ. หรือ รัฐบาล  ก็แสดงให้เห็นว่าทำประเทศเหมือนเป็นการขายของเด็กเล่น   อยากเขียนอย่างไรก็เขียน ยังไม่ทันใช้ก็จะแก้   ประเทศชาติไม่ใช่ของเล่น   เราไม่ได้เล่นขายของแต่กำลังทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น การคิดที่ไม่ตกผลึก  แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะที่ไม่มี   นายสมชัยกล่าว 


นายสมชัย ยังกล่าวว่า การทำไพรมารีโหวตทำให้พรรคการเมืองมีความลำบากมากขึ้น  แต่ กกต.ก็ไม่ใช่ว่าจะลอยตัว เพราะการทำไพรมารีโหวตจะเป็นกระบวนการภายในของพรรคการเมือง   แต่ถ้ามีการร้องเรียนว่ากระบวนการไม่ถูกต้อง กกต.ก็ต้องดำเนินการรับคำร้องนำไปสู่การวินิจฉัยว่าถูกต้องหรือไม่   ตนไม่มั่นใจว่าการทำครั้งแรกออกมาเป็นเช่นไร 

นายสมชัย  ยังเห็นว่าการดูด สส.ในเวลานี้  เป็นการทำลายระบบไพรมารีโหวต  เพราะกลายเป็นการกำหนดตัวบุคคลจากบนลงล่างไม่ใช่มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน  

ด้านนายนิกร   กล่าวว่า  ขณะนี้ยังมีปัญหาว่ากระบวนการทำไพรมารีโหวตยังทำไม่ได้  เพราะยังไม่มีการปลดล็อกพรรคการเมือง  อย่างไรก็ตามระบบเลือกตั้งปัจจุบันทำให้ต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 8 พันคน  ไม่เช่นนั้นจะมีตัวแทนจังหวัดไม่ได้ ทำให้ค่าใช้จ่ายสูง  พรรคเล็กจะดำเนินการไม่ได้   โดยรวมในเชิงปฏิบัติจึงมีปัญหามาก  ทำให้พรรคการเมืองต้องหาคนเลือกตั้งแล้วค่อยหาสมาชิกในแต่ละจังหวัดเอามาเลือกตัวเองเข้ามา   จึงไม่ใช่เรื่องจากล่างขึ้นบนแต่เป็นบนลงล่าง คือหาผู้สมัครแล้วให้ผู้สมัครไปหาสมาชิกมาเลือกตัวเอง ผู้สมัครใหม่ไม่มีโอกาสเข้ามา  เพราะบทเฉพาะกาลให้เขตเดียวครอบทั้งจังหวัด การเขียนกฎหมายครั้งนี้ขาดความเข้าใจถือเป็นบาปบริสุทธิ์ครั้งใหญ่   ส่วนตัวเห็นว่าควรขยับการทำไพรมารีโหวตออกไปก่อน คือยังไม่ต้องทำเต็มระบบ  ให้ทำระดับภาคก่อน  หรือใช้ตัวแทนประจำจังหวัด  โดยใช้มาตรา 44 มาแก้ไข  เพราะจะไม่ทำไพรมารีโหวตเลยคงไม่ได้ เนื่องจากอาจขัดรัฐ ธรรมนูญ

“ไพรมารีโหวต เราเข้าใจว่าเป็นเรื่องดี มองโลกสีชมพู แต่ความจริงมีปัญหามากมาย พรรคใหญ่กินหมด ครอบหมด เจ้าพ่ออยู่สบาย คลุมทั้งจังหวัด ส.ส.อื่นจะลงก็ต้องมาขอเจ้าพ่อ เขตเดียวคลุมทั้งจังหวัด มันเป็นบาปบริสุทธิ์ครั้งใหญ่ในครั้งนี้”นายนิกร กล่าว

ส่วนนายยุทธพร     กล่าวว่า ไพรมารีโหวตอาจไม่ใช่เส้นทางประชาธิปไตย การมีไพรมารีโหวตอย่างเดียวไม่พอ  พรรคการเมืองโตโดยกฎหมาย ไม่ได้โตโดยธรรมชาติ  พรรคการเมืองจะอ่อนแอไม่ได้เชื่อมโยงกับประชาชน  จากปัญหานี้จะทำให้พรรคการเมืองเฉพาะกิจ  เฉพาะกลุ่มเกิดขึ้น   เพราะการเมืองกลับสู่คณิตศาสตร์การเมือง และการต่อรอง มุ่งหวังที่จะเป็นรัฐบาลอย่างเดียว ไม่ใช่การรวมตัวเพื่ออุดมการณ์

“ไพรมารีไม่ได้เป็นทางออกและทางตันของประชาธิปไตยไทย แต่จำเป็นมากกว่า คือการแก้ไขรากฐานประชาธิปไตย”นายยุทธพรกล่าว   

อย่างไรก็ตามนายยุทธพร  เห็นว่า การแก้ปัญหาไพรมารีโหวตยังสามารถทำได้  ทั้งการใช้ ม.44 แก้ หรือการแก้โดยผ่าน สนช. แต่หากไม่มีการปรับแก้ก็จะเกิดปัญหาจนสุดท้ายไพรมารีโหวตการเป็นผู้ร้ายในสังคม  แต่หากเรียนรู้และค่อยปรับกันไปก็จะช่วยทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็งขึ้นได้ในอนาคต.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า