ก.ล.ต.คลอดเกณฑ์คุมซื้อขายเงินดิจิทัล

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. –  ก.ล.ต.ออกเกณฑ์รองรับการซื้อขายเงินดิจิทัล คาดมีผลบังคับ 16 ก.ค.นี้


นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต.ได้ออกประกาศที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 คาดว่าจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 

สำหรับประกาศนี้ใช้บังคับผู้ที่จะประกอบธุรกิจเป็นศูนย์ซื้อขาย นายหน้า และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งภายใต้ พ.ร.ก. ข้างต้นระบุให้ต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระทรวงการคลัง โดย ก.ล.ต.มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานการประกอบธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ให้บริการมีระบบที่มีความพร้อม เช่น โครงสร้างการบริหารจัดการ ระบบงานต่าง ๆ การเปิดเผยข้อมูลสำคัญให้ลูกค้าทราบ การมีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพโดยต้องมีการทดสอบเจาะระบบ การตรวจสอบระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ  การจัดทำงบการเงิน วิธีการติดต่อและให้บริการลูกค้า ซึ่งต้องระบุตัวตนที่แท้จริงของลูกค้าหรือผู้รับประโยชน์ที่แท้จริง มีการประเมินความเหมาะสมในการลงทุนของลูกค้า  และปรับปรุงข้อมูลของลูกค้าให้เป็นปัจจุบัน ตลอดจนใช้บุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการแนะนำ ไม่ทำให้สำคัญผิดและไม่เร่งรัดให้ลูกค้าตัดสินใจ รวมทั้งเงื่อนไขเฉพาะศูนย์ซื้อขายและผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น กรณีที่มีการเก็บรักษาทรัพย์สินของลูกค้า เป็นต้น


นายรพี กล่าวว่า ผู้ประกอบธุรกิจมีบทบาทสำคัญในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล  ก.ล.ต.จึงออกประกาศรองรับเพื่อให้ผู้ที่สนใจศึกษารายละเอียด โดย ก.ล.ต.ยินดีให้คำปรึกษาผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจตั้งแต่บัดนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจมาตรฐานที่กำหนดแต่ละด้าน ซึ่งจะเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการยื่นขอรับใบอนุญาตเมื่อประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการให้ใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลมีผลบังคับใช้ในอนาคต ทั้งนี้ แม้เกณฑ์ที่ออกมาจะช่วยสร้างมาตรฐานในการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ประกอบธุรกิจ แต่ผู้ที่จะเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลต้องทราบว่าการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและมีความผันผวนสูง ผู้ลงทุนมีโอกาสขาดทุน หรืออาจมีช่องทางการเปลี่ยนมือสินทรัพย์ดิจิทัลที่จำกัด

นอกจากนี้ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลมีผลใช้บังคับมาตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2561 การเสนอขายหรือชักชวนให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลจะทำได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีผู้ที่ได้รับความเห็นชอบเป็นไอซีโอพอร์ทัลและอนุญาตให้เสนอขายโทเคนดิจิทัล ดังนั้น ผู้ที่ฝ่าฝืนจะเข้าข่ายทำผิดกฎหมายมีโทษทางอาญาและทางแพ่ง อีกทั้งการชักชวนให้ลงทุนที่อ้างผลตอบแทนสูงเกินจริงในเวลาอันรวดเร็ว อาจเป็นการหลอกลวงผู้ลงทุน  ก.ล.ต.จึงขอเตือนให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบรายละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน มิเช่นนั้นอาจสูญเสียเงินจำนวนมาก .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

วธ.เผย ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมร่วม 5 ประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567

รัฐบาลจัดพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว อย่างยิ่งใหญ่

พระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีน อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ววันนี้ พร้อมริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนเปิดให้ประชาชนสักการะ พรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) วันแรก

เปิดนาทีระทึก! เรือบรรทุก ชนเรือนำเที่ยวกลางเจ้าพระยา

ระทึก เรือพ่วงบรรทุก เฉี่ยวชนเรือนำเที่ยว จอดเทียบริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สะพานกรุงเทพฯ ทำให้เรือนำเที่ยวขนาดใหญ่เสียหาย 5 ลำ เรือเล็กจมอีก 1 ลำ