กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – กรมศุลฯ เผย 9 เดือนแรกจัดเก็บรายได้ 82,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าร้อยละ 2 เล็งขึ้นแบล็คลิสต์บริษัทสำแดงราคาต่ำ
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนของปีงบประมาณ 2561 (ต.ค.60-มิ.ย.61) กรมฯ จัดเก็บรายได้ 82,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าร้อยละ 2 ขณะที่เป้าทั้งปีอยู่ที่ 101,000 ล้านบาท
สำหรับการแก้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์นั้น กรมฯ จะใช้ฐานข้อมูลร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม (Big Data) เพื่อทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลและนำมาวิเคราะห์บริหารความเสี่ยง (Risk Management) หากพบการกระทำความผิดจะผลักดันสินค้าเศษอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกออกไปและให้ผู้นำเข้ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด นอกจากนี้ ทำการตรวจสอบย้อนกลับสำหรับบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตในการนำเข้า เมื่อผ่านพิธีการศุลกากร ตรวจปล่อยของออกจากอารักขาของศุลกากรแล้ว กรมศุลกากรจะแจ้งไปยังกรมโรงงานอุตสาหกรรมให้ไปตรวจสอบ และกรณีบริษัทกระทำความผิด ทางกรมศุลกากรจะส่งข้อมูลให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมยกเลิกใบอนุญาต และหากบริษัทใดมีความเสี่ยงหรือสำแดงราคาต่ำกว่าเกณฑ์จะขึ้นแบล็คลิสต์เฝ้าระวังพิเศษ
ส่วนการกำจัดขยะพลาสติกและอิเล็กทรอนิสก์ จากการตรวจสอบครึ่งปีแรก 2561 มีการนำเข้าสูงกว่าช่วงเดียวกันปี 2560 ขณะที่ท่าเรือแหลมฉบังมีตู้ขยะตกค้าง 1,118 ตู้ โดยจะให้เวลา 15 วัน หากไม่ยื่นสำแดงกรมฯ จะผลักดันไปประเทศต้นทางหรืออาจต้องทำลายทิ้ง โดยขณะนี้จับผู้กระทำความผิดประมาณ 400 ตู้ ส่งกรมโรงงานตรวจสอบ 50 ตู้ อยู่ระหว่างส่งกลับ 50 ตู้ ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าอาจเพิ่มภาษีนำเข้านั้น ส่วนตัวมองไม่จำเป็น เพราะปัญหาที่พบส่วนใหญ่มาจากการลักลอบนำเข้าไม่เสียภาษีตามกฎหมาย
วันนี้ (4 ก.ค.) ครบรอบ 144 ปี กรมศุลกากรได้มีการมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ รางวัลเชิดชูเกียรติแก่คนดีศรีศุลกากร ประพฤติปฏิบัติตนชอบด้วยความซื่อสัตย์สุจริตของกรมศุลกากร ประจำปี 2561 และข้าราชการผู้มีผลงานดี และมอบทุนการศึกษาแก่บุตรธิดาข้าราชการและลูกจ้าง นอกจากนี้ คณะผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้าง ได้ร่วมกันบริจาคเงินไถ่ชีวิต โค-กระบือ ณ โรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองปทุมธานี 45 ตัว เป็นเงิน 1.3 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ.-สำนักข่าวไทย