fbpx

นายกฯ ยัน ไม่เกี่ยวข้องดูดอดีต ส.ส.เข้าร่วมพลังประชารัฐ

ทำเนียบฯ 3 ก.ค. – นายกฯ ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูดอดีต ส.ส.เข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ ยืนยัน ยืนอยู่ตรงกลาง ไม่เอาเปรียบใคร  ระบุ การเลือกตั้ง ท้ายสุดประชาชนตัดสินใจ    


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีพรรคเพื่อไทยโจมตีว่า รัฐบาลเอาเปรียบทางการเมือง และมีรองนายกรัฐมนตรีอยู่เบื้องหลังการดูดอดีต ส.ส.ให้เข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ ว่า จะโจมตีตนเรื่องอะไร เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่มีการดำเนินกิจกรรมอย่างเป็นทางการ  มีเพียงการจดจองชื่อไว้เท่านั้น  และเห็นว่า การพูดคุยต่างๆ ในวันนี้ มีเสรีภาพกันมากกันพอสมควร หลายฝ่ายก็ออกมาพูดและออกมาแสดงความคิดเห็นได้  ถ้าทำอย่าสงบเรียบร้อย ไม่วุ่นวาย รัฐบาลก็ผ่อนผันให้ตามสถานการณ์ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดังนั้น อย่ามองว่าจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เพราะประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง พร้อมยืนยันว่า โครงการไทยนิยมยั่งยืน และพลังประชาชนรัฐ ไม่ใช่โครงการที่จะทำให้ได้เปรียบทางการเมือง  เพราะโครงการที่ลงไป ต้องการช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ โดยที่ประชาชนเป็นคนกำหนด ไม่ใช่รัฐบาลกำหนด  เพื่อที่จะให้กลับมารักรัฐบาลแต่อย่างใด


“ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่มีการพูดคุยในประเด็นนี้กับรองนายกรัฐมนตรี เพราะส่วนตัวไม่รู้ว่าพรรคไหนดำเนินการอย่างไร รู้เพียงมีพรรคที่จดแจ้งชื่อกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึง 79 พรรค ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็เช่นกัน ส่วนอนาคตในวันข้างหน้า พรรคนี้จะเป็นอย่างไร ยังมีเวลาอีก ค่อยว่ากัน  เพราะตอนนี้ยังคงทำงานอยู่  ผมสามารถที่จะพูดคุยได้กับทุกพรรค และนักการเมืองทุกคน และให้เกียรติทุกคน ทั้งอดีตนายกรัฐมนตรี  ซึ่งการอยู่เช่นนี้บ้านเมืองจะสงบเรียบร้อย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังหวังว่า อนาคตที่จะมีการเลือกตั้งจะดีขึ้น  ทุกคนต้องตั้งความหวังเช่นนี้  และทุกอย่างอยู่ที่แรงศรัทธาของทุกคน  ถ้าสร้างความเชื่อมั่น และให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในวันนี้ ก็จะได้รัฐบาลที่ดีในวันหน้า  เปรียบได้กับการช่วยทีมหมูป่า อะคาเดมี อยู่ที่แรงศรัทธาของทุกคน ถ้ามั่นใจว่าปลอดภัย และเชื่อมั่นว่าจะช่วยได้ ก็ต้องช่วยได้ 

“การเมืองก็เช่นกัน ถ้าทุกคน ทั้งนักการเมืองเก่าและใหม่ มาร่วมมือกัน  ไม่ว่าพรรคการเมืองใดจะเกิดขึ้น  ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะเลือก  วันนี้ ผมรับฟังทุกพรรคที่ออกมาพูดกันในขณะนี้ และผมจะอยู่ตรงกลาง และไม่เข้าข้างใคร” นายกรัฐมนตรี กล่าว .- สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง