พิษณุโลก 3 ก.ค.- “อ.สง่า” ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขด้านโภชนาการห่วงระบบการย่อยอาหารของทีมบอลหมูป่าอะคาเดมี่ติดถ้ำหลวงนานกว่าสัปดาห์ แนะอาหารที่ร่างกายนำไปใช้ได้เร็วประเภทวิตามินและกลูโคลสจากแป้ง ส่วนน้ำควรใช้วิธีจิบ
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่โรงแรมเดอะปาร์ค อำเภอเมือง จ.พิษณุโลก อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญด้านโภชนาการ และผู้จัดการด้านโภชนาการสมวัย กล่าวเปิดประชุมโครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำ สร้างเสริมสุขภาวะ “ลดพุง ลดโรค” ซึ่งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) กระทรวงสาธารณสุขได้จัดขึ้น โดยมีผู้นำจากหมู่บ้าน อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา อสม. และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพเข้าร่วมกว่า 100 คน
อาจารย์สง่า ยังกล่าวถึงโค้ชและเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่แม่สาย 13 คน ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงรายว่า หลังจากเจ้าหน้าที่พบทีมฟุตบอลทั้ง 13 คนแล้ว แต่ยังไม่สามารถพาออกจากถ้ำได้ในทันที เพื่อความปลอดภัยของเยาวชน เนื่องจากติดอยู่นาน 9-10 วัน สิ่งที่เป็นห่วงคือระบบการทำงานของอวัยวะภายในอาจลดลง โดยเฉพาะกระเพาะและลำไส้ น้ำย่อยไม่ได้หลั่งออกมา เพราะเด็กไม่ได้กินอาหาร เกลือแร่และน้ำที่อยู่ในร่างกายเริ่มลดลง ฉะนั้นการฟื้นฟูสภาพเด็กในระยะแรก ๆ จึงต้องคำนึงถึงอาหารที่ย่อยง่าย และร่างกายนำไปใช้ได้เร็ว สำหรับอาหารที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ทันทีทันใด คือ วิตามิน แร่ธาตุ และพลังงาน เป็นสิ่งจำเป็นที่สุด โดยนำอาหารที่อยู่ในรูปของกลูโคลสที่ได้จากแป้ง และน้ำตาลที่อยู่ในรูปของกลูโคลส ซึ่งจะช่วยให้มีพลังงาน ฟื้นฟูสภาพ ส่วนอาหารแข็งและอาหารย่อยยากควรเว้นไว้ก่อนระยะนี้ แม้กระทั่งน้ำเองก็ตาม เด็กหลายคนขาดน้ำ การให้น้ำไม่ใช่ให้ดื่มทีเดียว ต้องค่อยจิบ
“ทางการแพทย์แล้วการให้อาหารระยะเริ่มต้นของคนที่ติดอยู่ในถ้ำ หรือหลงป่า หรือประสบภัยพิบัตินั้น เขาจะให้อาหารทางสายยาง หรือในน้ำเกลือ เพื่อให้เด็กค่อยฟื้นสภาพขึ้นมา ภายใน 1 สัปดาห์ เด็กก็จะกลับคืนมา รับประทานอาหารได้ตามปกติ”.-สำนักข่าวไทย