รามคำแหง 29 มิ.ย.- วสท.เตรียมทำหนังสือถึงรัฐบาล เร่งรัดการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ จี้ออกพ.ร.บ.การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้
หลังจากรัฐบาลขอระงับการนำเข้าซากอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกเป็นการชั่วคราว นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท.กล่าวว่า เตรียมเสนอแนะรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย เนื่องจากปัญหาขยะพิษและขยะอิเล็กทรอนิกส์ทะลักเข้ามาอยู่ภายในประเทศมีจำนวนมหาศาล แต่ยังขาดการจัดการ และกำจัดที่ดี โดยเฉพาะจะต้องเร่งรัดร่างพ.ร.บ.การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จากนั้นจะนำเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ซึ่งคาดว่าเร็วสุดภายในเดือนกันยายนหรือช้าสุดในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้ควรสนับสนุนให้สร้างโรงงานคัดแยกและกำจัดซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะการทำโซนนิ่ง จัดตั้งเป็นเขตอุตสาหกรรมการคัดแยก นำกลับมาใช้ใหม่ของขยะหรือซากผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อไม่ให้กระจายไปยังทั่วประเทศ
นายธเรศ ศรีสถิตย์ คณะกรรมการสาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมว่าเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการฟื้นฟู จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ พร้อมจัดตั้งกองทุน เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ วสท.ขอเป็นส่วนหนึ่งใน “คณะอนุกรรมการเพื่อบูรณาการการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ และเศษพลาสติกที่นำเข้าจากต่างประเทศอย่างเป็นระบบ” ที่รัฐบาลจัดตั้ง เพื่อให้คำแนะนำ ช่วยกำกับดูแล และตรวจสอบแก้ปัญหาให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
ปัจจุบันข้อมูลจาก กรมโรงงานอุตสาหกรรม พบว่า จำนวนโรงงานที่ได้รับอนุญาตในปี 2560 โรงงานประเภทลำดับที่ 105 หรือโรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับการคัดแยกและฝังกลบสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วเพิ่ม ขึ้นจากปี 2559 ที่มี 18แห่งเป็น 88 แห่งและโรงงานประเภทลำดับที่106 หรือโรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับนำผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียจากโรงงานมาผลิตเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มี 31 แห่ง เป็น 111 แห่ง .-สำนักข่าวไทย