สุราษฎร์ธานี 26 มิ.ย. -ฉาววงการสีกากี สื่ออิสราเอลตีแผ่หนุ่มอิสราเอลถูกจับคดีธนบัตรปลอม แต่กลับถูกตำรวจไทยกรรโชกทรัพย์ 5.5 แสนบาท เพื่อแลกกับการทำคดีและปล่อยตัวกลับประเทศ
รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2561 นายอาวี นาโฮม (Avi Nahom) อายุ 28 ปี สัญชาติ อิสราเอล เดินทางมาจากประเทศอิสราเอล เข้ามาที่ประเทศไทยพร้อมกับภรรยา และบุตรสาว ได้เดินทางต่อไปท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ต เมื่อไปถึงนายเอวี ได้ไปแลกเงินจำนวน 700 ดอลลาร์ หรือประมาณ 20,000 กว่าบาท ที่จุดแลกเปลี่ยนเงินแห่งหนึ่ง หลังจากที่ท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตได้ 3 วัน ในวันที่ 5 เม.ย. 61 นายเอวี พร้อมกับครอบครัว ได้เดินทางท่องเที่ยวต่อที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และเข้าพักเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในหาดเฉวง ต.บ่อุผด ต่อมานายอาวี ได้ไปแลกเงิน 300 ดอลลาร์ หรือ 9,000 กว่าบาท ที่จุดแลกเปลี่ยนเงินของบริษัท บีเจ เคอเรนซี่ เอ็กเชนจ์ จำกัด บริเวณหน้าถนนเลียบชายหาดเฉวงหน้าทางเข้าโรงแรมอาร์คบาร์ ม.2 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย ซึ่งมีน.ส.ทิพย์วรรณ พรหมคล้าย เป็นผู้ให้บริการแลกเงิน หลังจากนั้นนายอาวีได้ถูกจับกุมในข้อกล่าวหา ” มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรซึ่งทำปลอมขึ้น อันตนได้มาซึ่งรู้ว่าปลอมขึ้น” และถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจบ่อผุดเวลา 1 วันครึ่ง ก่อนจะนำเงินประกันตัวจำนวน 2 แสนบาทออกมา จากนั้นอีก 3 สัปดาห์หลังจากนั้น ภรรยาและลูกสาวของนายอาวีได้เดินทางกลับประเทศอิสราเอลไปก่อน แต่นายเอวี่ ยังคงรออยู่ที่เกาะสมุยเพื่อการรอพิจารณาคดีเป็นเวลา 2 เดือน
แต่หลังครบกำหนด 2 เดือน มีบุคคลติดต่อกับนายอาวีที่สถานีตำรวจว่าให้นายอาวี จ่ายเงิน 550,000 บาท เพื่อแลกกับการให้นายอาวีเดินทางออกจากประเทศไทยกลับไปยังประเทศของตนเองได้ และในวันที่ 5 มิ.ย. 61 พ่อของนายอาวี ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวมาให้ และทนายความของนายเอวีนำเงินมาจ่ายกับชายไทยที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย 550,000 จากนั้นนายอาวีก็เดินทางออกจากเกาะสมุยไปฮ่องกง แล้วบินต่อกลับประเทศอิสราเอล หลังจากที่นายอาวีกลับไปอิสราเอล จนเป็นข่าวโด่งดังและมีสำนักข่าวของประเทศอิสราเอลให้ความสนใจและตีแผ่เรื่องราวดังกล่าว นายอาวี ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ถูกจับตัวหลังจากที่ไปแลกเงิน พนักแลกเงินบอกว่าเงินจำนวนที่นำไปแลกเป็นเงินปลอม และพนักงานแลกเงินได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ่อผุด พร้อมกับถูกยึดพาสปอร์ทด้วย แต่นายอาวีได้พยายามอธิบายว่ามันไม่ใช่เงินปลอมแต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น นายอาวีถูกจับกุมมาที่สภ.บ่อผุด ก่อนถูกแจ้งข้อกล่าวหาและอยู่ในห้องขังที่สภาพไม่ดี
นายอาวี บอกอีกว่าตนเองถูกบังคับให้จ่ายเงิน ถ้าไม่จ่ายเงินจะไม่ได้ออกจากคุก แต่ไม่ได้ระบุว่าให้จ่ายกับใคร เวลานั้นไม่มีทางเลือกมากนัก ถ้าไม่จ่ายเงินในจำนวนนั้นอาจจะต้องรออยู่ในประเทศไทยต่อไปอีก 6-8 เดือน เขาจึงเลือกที่จะจ่ายเงินตามจำนวนดังกล่าว หลังจากกลับประเทศแล้วเขาก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า มันเป็นประสบการณ์ที่แย่มากๆ เงินที่เขากับภรรยาเก็บสะสมมาเพื่อจะสร้างอนาคต ก็ต้องสูญเสียไปกับสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ นายอาวีถูกปล่อยตัวไปโดยที่ไม่ต้องดำเนินคดีอะไร “ให้เงินตามที่พวกเขาต้องการไป คดีทั้งหมดก็จบลงไปได้ ”จากแหล่งข่าวเผยอีกว่า พ่อของนายอาวี ได้โอนเงินตามจำนวนที่ถูกเรียกร้องมาให้นักบวชชาวอิสราเอลที่กรุงเทพมหานคร จากนั้นนักบวชได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวมาให้กับทนายความของนายอาวีที่อยู่เกาะสมุย และในวันที่ 24 มิถุนายน 2561 ทนายความได้นำเงินไปมอบให้พนักงานสอบสวนร้อยเวรเจ้าของคดี ยศ.ร.ต.ท. ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในต.บ่อุผด
ล่าสุด ฯพณฯ ดร. เมเอียร์ ชโลโม เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้เดินทางมาพบกับ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพน้อยที่ 4 ที่กองบัญชาการควบคุม มณฑลทหารบกที่ 45 พื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว พร้อมขอให้กองทัพไทยช่วยดำเนินการติดตามเรื่องนี้ด้วย และขอให้อย่าให้มีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นอีก
ทางด้าน พล.ท.พรศักดิ์ แม่ทัพน้อยที่ 4 กล่าวว่า ทางรัฐบาลและคสช. สั่งการมาให้ชุดปฎิบัติการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 ดูแลติดตามให้ความเป็นธรรมแก่นักท่องเที่ยว และเพื่อเป็นการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพืนที่ต้องมีความชัดเจนเป็นธรรม เป็นที่พึ่งให้กับนักท่องเที่ยว.-สำนักข่าวไทย