สนง.กฤษฎีกา 26 มิ.ย.-เครือข่ายทนายประชาชนปกป้องพระพุทธศาสนายื่นหนังสือขอขยายเวลารับฟังความเห็นแก้พ.ร.บ.สงฆ์ 40วัน เพื่อเปิดโอกาสให้เสนอความเห็นจากรอบด้าน โดยเฉพาะพระสงฆ์
นายวรกร พงศ์ธนากุล ประธานเครือข่ายทนายประชาชนปกป้องพระพุทธศาสนา กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีประกาศรับฟังความคิดเห็นแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 และได้ประกาศให้มีการรับฟังความคิดเห็นทางเว็บไซต์www.krisdika.go.th โดยกำหนดระยะเวลาแสดงความคิดเห็นตั้งแต่ 19 มิถุนายน 2561 ถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2561 ทำให้มีเวลาในการแสดงความคิดเห็นเพียง7วันเท่านั้นซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไป ไม่เหมาะสมกับการรับฟังความคิดเห็นในเรื่องสำคัญเช่นนี้
เครือข่ายทนายประชาชนฯจึงขอให้ มีคำสั่งให้ขยายระยะเวลารับฟังความคิดเห็นออกไปอีก 40 วันนับแต่วันที่ครบกำหนดเพื่อให้พระสงฆ์และประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นในการแก้ไขพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน พ.ศ. 2548
เครือข่ายทนายประชาชนฯ ยังเสนอแนะเพิ่มเติมว่าใน ร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ฯ มาตรา 10 ย่อหน้าสุดท้ายที่ระบุว่าเมื่อมีการแต่งตั้งหรือเลือกผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชแล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูล ทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทนั้นเห็นว่าควรแก้ให้เป็น ให้ประธานองคมนตรีนำความกราบบังคมทูลฯแทน เนื่องจากเห็นว่าฝ่ายการเมืองไม่สมควรที่จะมาข้องเกี่ยวกับพระสงฆ์
เช่นเดียวกับในมาตรา 15 ทวิที่ระบุว่าการแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคม และการให้กรรมการมหาเถรสมาคมพ้นจากตำแหน่งให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช ควรแก้ไขเป็นการแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคม การให้กรรมการมหาเถรสมาคมพ้นจากตำแหน่งให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชแทนเพื่อไม่ให้ฝ่ายการเมืองเข้ามามีอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายพระสงฆ์ซึ่งเป็นการไม่สมควรจะทำให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนาในอนาคตได้
ขณะที่วันนี้เป็นวันที่6ของการรับฟังความคิดเห็นแล้ว นายวรกร ซึ่งได้ยื่นหนังสือผ่าน ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่าจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดหากไม่มีการขยายเวลารับฟังความคิดเห็นออกไปจะติดตามไปยื่นหนังสือกับคณะรัฐมนตรีต่อไป.-สำนักข่าวไทย