กทพ. เริ่มเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางหลวงหมายเลข 9 ช่วงพระประแดง – ต่างระดับบางขุนเทียน 1 ก.ค. นี้

กระทรวงคมนาคม 25 มิ.ย. – กรมทางหลวง ลงนามการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในบันทึกข้อตกลงการบริหารจัดการงานจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางฯ บนทางหลวงหมายเลข 9 


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการลงนามบันทึกข้อตกลงการบริหารจัดการงานจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง งานบำรุงรักษา งานกู้ภัย และงานจัดการจราจร บนทางหลวงหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนพระประแดง – บางแค ช่วงพระประแดง – ต่างระดับบางขุนเทียน ระหว่างกรมทางหลวง (ทล.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยมี นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง และนายสุทธิศักดิ์ วรรธนวินิจ รองผู้ว่าการฝ่ายกฎหมายและกรรมสิทธิ์ที่ดิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เป็นผู้ลงนาม 

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กล่าวว่า การจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางพิเศษ หรือมอเตอร์เวย์ สาย 9 พระประเเดง – บางขุนเทียน มีหน่วยงานรับผิดชอบ 2 หน่วยคือ ทล. และ กทพ. ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติตั้งแต่ปี 2554 เห็นชอบให้ กทพ. เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการจัดเก็บรายได้ค่าผ่านทาง งานบำรุงรักษาทาง งานกู้ภัย และงานจัดการจราจร บนทางหลวงหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนพระประแดง – บางแค ช่วยพระประแดง – ต่างระดับบางขุนเทียน ระยะทาง 14.5 กิโลเมตร เพื่อนำเงินเข้าบัญชีเงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทางของ ทล.


โดยการลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ครั้งนี้ กทพ. จะเริ่มจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางแทน ทล. ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป โดยคิดอัตราค่าธรรมเนียมผ่านทางเป็นไปตามกฎกระทรวง พ.ศ. 2555 ได้แก่ รถ 4 ล้อ คิดค่าธรรมเนียมผ่านทาง 15 บาท รถ 6 ล้อ คิดค่าธรรมเนียมผ่านทาง 25 บาท และรถมากกว่า 6 ล้อ คิดค่าธรรมเนียมผ่านทาง 35 บาท ตามลำดับ

ทั้งนี้ เงินรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางทั้งหมด กทพ. จะนำส่ง ทล. เพื่อเข้าบัญชีเงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทางที่กระทรวงการคลังเป็นผู้เก็บรักษา และจะนำมาใช้ในการบำรุงรักษาทาง สะพาน ตลอดจนระบบอำนวยความปลอดภัยด้านการจราจรต่าง ๆ รวมทั้งใช้สำหรับก่อสร้างขยายโครงข่ายมอเตอร์เวย์สายทางอื่น ๆ ต่อไป ซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระงบประมาณแผ่นดิน รักษาวินัยทางการเงินการคลังภาครัฐ พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ของประเทศ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง