กลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท.แนะเก็บภาษีรถเกรย์มาร์เก็ตร้อยละ 80

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.ขอให้รัฐเข้มงวดรถนำเข้าอิสระหรือเกรย์มาร์เก็ต ต้องเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 80 


นายครรชิต ไชยสุโพธิ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย   (ส.อ.ท.) เสนอแนะภาครัฐ ให้ใช้มาตรการที่จำเป็นสำหรับแก้ไขปัญหาผู้นำเข้ารถยนต์อิสระหรือรถยนต์กลุ่ม Grey Market โดยขอให้ภาครัฐ คงอัตราภาษีศุลกากรนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศที่ร้อยละ 80 เนื่องจากการลดภาษีจะทำให้มีการนำเข้ารถยนต์มากขึ้น  จนกระทบต่อยอดรถที่ผลิตภายในประเทศ และไม่ก่อให้เกิด Economy of Scale  ซึ่งจะทำให้ไม่มีการลงทุนเพื่อผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ต่อไปในอนาคต  และยังส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง นอกจากนี้การลดอัตราภาษีศุลกากรนำเข้ารถยนต์ จะส่งผลต่อการเจรจาเขตการค้าเสรีในอนาคตด้วย

ด้านกรมศุลกากร ก็ขอให้ เร่งรัดการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การประเมินราคารถยนต์นำเข้าฉบับใหม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และให้ผู้ประกอบการทุกรายสามารถแข่งขันได้บนพื้นฐานเดียวกัน  และเข้มงวดด้านการตรวจสอบการสำแดงราคานำเข้าเพื่อป้องกันการสำแดงราคารถยนต์นำเข้าที่ต่ำกว่าความเป็นจริง ส่วนกรมสรรพสามิต ขอให้เข้มงวดด้านการตรวจสอบการสำแดงราคาขายปลีกแนะนำ รวมถึงการดูแลจัดเก็บภาษีให้ถูกต้องตามประเภทรถยนต์ ขณะที่กรมการขนส่งทางบก ก็ขอให้เข้มงวดด้านการจดทะเบียนรถยนต์จากผู้นำเข้าอิสระ ภายใต้ตราผลิตภัณฑ์เดียวกันกับเจ้าของแบรนด์ ด้านมาตรฐานรถยนต์ ขอให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) เข้มงวดด้านการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เป็นสำคัญ


นอกจากนี้ ภาครัฐไม่ควรนำหลักการของภาษีศุลกากรนำเข้าระหว่างประเทศสมาชิก ASEAN ภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ที่เป็น 0% มาเป็นเหตุผลในการลดอัตราภาษีศุลกากรนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ เนื่องจากการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ AFTA ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศจึงจะได้รับสิทธิทางภาษี และขอให้ภาครัฐออกนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และพิจารณาความเหมาะสมอย่างรอบด้าน

 มาตรการที่กล่าวมานั้น เป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ปัญหาในระยะยาว หากรถที่นำเข้าจากผู้นำเข้าอิสระ (Grey Market) สามารถนำเข้าอย่างถูกกฎหมายโดยผู้นำเข้าและจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับหลายภาคส่วนของประเทศ ทั้งภาครัฐ ในด้านการจัดเก็บภาษีอากร ภาคเอกชนด้านการส่งเสริมการแข่งขันในตลาดให้มีความเท่าเทียมและเป็นธรรม และภาคประชาชนด้านคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ฯลฯ


สาเหตุที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. นำเสนอแนวทางแก้ปัญหารถนำเข้าอิสระ เพราะการนำเข้ารถยนต์ที่เลี่ยงภาษี เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว แม้ว่าภาครัฐมีความพยายามที่จะแก้ปัญหา แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขให้หมดไปได้ ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้ด้านภาษีเป็นจำนวนมาก ผู้บริโภคได้รับผลกระทบด้านคุณภาพ และมาตรฐานความปลอดภัย อีกทั้งเป็นเหตุให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในนโยบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยของภาครัฐ จากปัญหาการนำเข้ารถยนต์เลี่ยงภาษีที่ยังคงมีอยู่ 

ประกอบกับปัจจุบัน มีแรงกดดันจากผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ ที่ขอให้หน่วยงานภาครัฐดำเนินการปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป ตลอดจนขอยกเว้นกฎระเบียบต่างๆ เพื่อทำให้กลุ่มผู้นำเข้าอิสระสามารถประกอบธุรกิจได้นั้น

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยายนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ. 2555 บริษัท ไบรอัน เคฟ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับคณะผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัย-ธรรมศาสตร์ และกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการนำเข้า และจำหน่ายรถยนต์นำเข้าโดยผู้นำเข้าอิสระ (Grey Market) ในประเทศไทย โดยได้ศึกษาถึงกระบวนการและผลกระทบ สามารถสรุปได้ 3 รูปแบบหลัก ได้แก่ การนำเข้ารถใหม่ (CBU) การนำเข้าโดยการสำแดงเป็นรถยนต์ใช้แล้ว ผ่านการขอใบอนุญาตจากกรมการค้าต่างประเทศและรถจดประกอบหรือการแยกชิ้นส่วน เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีนำเข้าในอัตรารถยนต์สำเร็จรูป อย่างไรก็ตาม จากการที่ภาครัฐได้เพิ่มความเข้มงวดในการนำเข้ารถยนต์จดประกอบ ทำให้ปัญหาจากการนำเข้ารถยนต์ผ่านช่องทางนี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง

กระบวนการนำเข้าของผู้นำเข้าอิสระในรูปแบบต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น นอกจากจะทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียรายได้จากภาษีอากร ซึ่งได้แก่ ภาษีศุลกากร ภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่ม ฯลฯ เป็นจำนวนมากแล้ว ยังก่อให้เกิดความสูญเสียและส่งผลกระทบในด้านต่างๆ ดังนี้

การสูญเสียต่อผู้บริโภค ผู้นำเข้าและจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (Authorized Dealer) มีการลงทุนสร้างและปรับปรุงเครือข่ายการซ่อมบำรุงรถยนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับรองคุณภาพและรักษามาตรฐานความปลอดภัยของสินค้าให้อยู่ในระดับสากล แต่รถที่นำเข้าโดยผู้นำเข้าอิสระ มีความไม่แน่นอนด้านคุณภาพสินค้าและมาตรฐานความปลอดภัย นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมีความเสี่ยงในการถูกยึดรถดำเนินคดี รวมถึงการลงโทษทางภาษีที่ต้องชำระภาษีย้อนหลังและค่าปรับ

 การสูญเสียโอกาสการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนของไทย หากปริมาณการผลิตรถยนต์และการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศลดลง หรือไม่มากพอ เนื่องมาจากการแทรกแซงตลาดโดยผู้นำเข้าอิสระที่อาศัยช่องทางการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน ส่งผลให้ Economy of Scale ลดลง บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ภายในประเทศไม่ขยายการลงทุนเพิ่ม ประเทศไทยจะสูญเสียโอกาสในหลายๆ ด้าน ได้แก่การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน การจ้างงานและการพัฒนาฝีมือแรงงานของผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่อง

การสูญเสียรายได้ของรัฐ และผลกระทบของเศรษฐกิจที่ถูกบิดเบือน ความเสียหายต่อการประเมินศักยภาพในการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง เนื่องจากมีการสำแดงโครงสร้างราคาของรถเพื่อการชำระภาษีที่เกี่ยวข้องต่ำกว่าความเป็นจริง รวมถึงการเลี่ยงภาษีของผู้นำเข้าอิสระ

นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบต่อ Authorized Dealer ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม เนื่องจาก Authorized Dealer มีการลงทุนสูงมาก โดยเฉพาะศูนย์บริการแบบครบวงจรและได้ตามมาตรฐานสูงสุด การลงทุนอุปกรณ์เครื่องมือพิเศษตรวจเช็กที่ครบครันและทันสมัย การจ้างทีมงานช่างผู้ชำนาญการ การลงทุนด้านการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการรับผิดชอบต่อคุณภาพและผลิตภัณฑ์ อาทิ การรับประกันอะไหล่ระยะ-ยาว, การ Recall รถที่จำหน่ายไปแล้ว ฯลฯ

ข้อมูลจากอดีตซึ่งรวบรวมจากการมีการตั้งเป้ายอดขายรถนำเข้าอิสระหลายรายรวมกันมียอดปีละประมาณ 20,000 คัน และโดยภาพรวมแล้วทำให้ประเทศเสียภายในภาพรวมคิดเป็นมูลค่ารวมปีละ 40,000-50,000 ล้านบาท-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]