ตัวแทนพรรคการเมืองร่วมเสวนา 86 ปี ประชาธิปไตย ก้าวต่ออย่างไรให้ยั่งยืน

กรุงเทพฯ 24 มิ.ย.-ตัวแทนพรรคการเมืองร่วมเสวนา 86 ปี ประชาธิปไตยก้าวต่ออย่างไรให้ยั่งยืน ส่วนใหญ่ประเมินประชาธิปไตยในปัจจุบันสอบตก  “ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย-อนาตคใหม่” ประกาศแก้รัฐธรรมนูญหลังเลือกตั้ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการ Wake Up Thailand Special จัดงานเสวนา œ86 ปี ประชาธิปไตยก้าวต่ออย่างไรให้ยั่งยืน  โดยมีตัวแทนพรรคการเมืองกว่า 10 พรรคเข้าร่วม อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ผู้ก่อตั้งพรรคประชาชนปฎิรูป  และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มเกียน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก่อนนี้คะแนนประชาธิปไตยของไทยอยู่ที่ 7 คะแนน เต็ม 10  แต่ขณะนี้อยู่ที่ 5 คะแนน ต่อจากนี้คะแนนจะผ่านหรือไม่อยู่ที่สังคมไทยหลังการเลือกตั้งว่าจะได้รัฐบาลที่เคารพสิทธิของประชาชน ไม่เลือกปฎิบัติและมีธรรมาภิบาลหรือไม่ ทั้งนี้ ไม่อยากมองประชาธิปไตยด้านเดียว การให้คะแนนประชาธิปไตยต้องมอง 2 ส่วน คือสังคม และนักการเมือง เป็นเพียงผู้แทนการใช้อำนาจของประชาชน  และสิ่งแรกที่จะต้องดำเนินการในขณะนี้คือ การปลดล็อคแก้คำสั่งของคสช. ให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้  ให้ประชาชนมีส่วนร่วม  ระหว่างการเลือกตั้งจะต้องทำให้ทุกพรรคไม่ซื้อเสียง และหาเสียงได้ทุกที โดยไม่มีความรุนแรงและแข่งขันที่นโยบาย  และหลังเลือกตั้งจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยต้องขอฉันทามติจากทุกพรรค ส่วนจะแก้ไขในประเด็นใดจะต้องหารือเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสังคม


นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ปัจจุบันคะแนนประชาธิปไตย อยู่ที่ 3 เต็ม10 เพราะปัจจุบันขาดการสร้างและพัฒนาเสรีประชาธิปไตย ความเท่าเทียม การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม และหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะรื้อสิ่งที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ทำ ไม่ยอมให้มีการสืบทอดอำนาจ และสร้างใหม่ให้เกิดความยั่งยืน  โดยจะแสวงหาความร่วมมือกับฝ่ายต่างๆ แก้ไขรัฐธรรมนูญตามวิธีการที่กฎหมายกำหนด และหลังการเลือกตั้งหากมีคนของ คสช.เข้ามามีส่วนในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน 

นายวราวุธ กล่าวว่าให้คะแนนอยู่ที่ 6 เต็ม 10 เนื่องจากประชาธิปไตยก้าวไปข้างหน้า เพียงแต่ตามระยะทางอาจมีสะดุดบ้าง ดังนั้นการเลือกตั้งที่จะถึงจะเป็นบทพิสูจน์ที่ดีและกระบวนการสำคัญของประชาธิปไตยที่มั่นคง คือลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และความแตกต่างทางความคิดจะต้องหมดไป

นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่สามารถให้คะแนนประชาธิปไตยได้  รู้เพียงแต่ไม่ผ่านเกณฑ์ และเห็นว่าการเป็นรัฐบาลได้คือต้องได้อำนาจจากประชาชน  และการที่จะพัฒนาประชาธิปไตยได้คือการลดอำนาจรัฐเพิ่มอำนาจประชาชน  ถ้าสังคมได้รับความเป็นธรรม ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ก็จะเป็นการสร้างความเข้มเเข็งให้ประชาขนป้องกันความไม่เป็นประชาธิปไตย


นายไพบูลย์ กล่าวว่าสถานการณ์ของประเทศตั้งแต่ พ.ศ. 2475 มีทั้งช่วงที่เป็นและไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะมีทั้งการเลือกตั้งและการทำรัฐประหาร แต่ช่วงที่มีการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในปี 2557 ตนถือว่ามีประชาธิปไตยที่สอบตก เพราะมีนักการเมืองที่ฉ้อฉล ใช้อำนาจของประชาชนในทางที่ไม่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง ดังนั้นหากจะเปรียบระหว่างนักการเมืองที่ฉ้อฉลกับนักรัฐประหารที่มาทำให้ประเทศดีขึ้น คงเทียบกันไม่ได้ จากนี้พรรคของตนจะสร้างประชาธิปไตยให้ประชาชนมีบทบาททางตรง กำหนดนโยบาย ทำพรรคเป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์  และหากมีพรรคใดที่จะแก้รัฐธรรมนูญ ต้องขอดูประเด็นก่อนที่จะพิจารณาว่าจะคัดค้านหรือไม่

นายธนาธร ประเมินว่าคะแนนประชาธิปไตยอยู่ที่ 1.97 คะแนน โดยทางวิทยาศาสตร์จับต้องได้ ทั้งการเลือกตั้งและการมีรัฐธรรนูญที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ส่วนคะแนนที่เหลือคือความฝัน ว่าการรัฐประหารจะจบในรุ่นของตน ไม่ส่งต่อไปรุ่นลูกหลาน อุปสรรคคือกลุ่มอภิสิทธิชนเพียงไม่กี่กลุ่ม ที่ถืออำนาจไว้ในมือและใช้อำนาจทำรัฐประหาร และตนขอรับภารกิจขจัดระบบที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และหลังการเลือกตั้งสิ่งที่พรรคจะทำ คือแก้รัฐธรรมนูญปี 60 และล้มล้างทุกสิ่งที่เป็นผลพวงมาจาก คสช. 

 นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มเกียน  ให้คะแนนประชาธิปไตย 7 เต็ม 10 จากการตื่นตัวของประชาชนที่มีความก้าวหน้ามากขึ้น  ถ้าเทียบกับอดีต สังคมมีความคิดและคาดหวังว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้น  หากมีโอกาสตั้งพรรคจะทำพรรคการเมืองเป็นระบบเปิด มีภาคมวลชนที่ประชาชนเดินเข้า-ออกได้ เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

แก๊งมอดไม้เหิม! โค่นป่า 40 ไร่ “เขาชะเมา” เหลือแต่ตอ

ระยอง 3 มิ.ย.- แก๊งมอดไม้เหิมเกริม ลักลอบโค่นป่าเกือบ 40 ไร่ กลางเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขาชะเมา จ.ระยอง เหลือแต่ตอไม้ ชาวบ้านโวยไร้เจ้าหน้าที่ดูแล ผู้สื่อข่าวรับร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พิกัด ม.3 บ้านเขาพัง ถนนเขาชะเมา-แก่งหางแมว ช่วงหลัก รย.4060 กม.ที่ 8 ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบภาพชวนสะเทือนใจ พื้นที่กว่า 37-40 ไร่ถูกโค่นต้นไม้จนโล่งเตียนเหลือเพียงตอไม้เบญจพรรณ ต้นยางพาราถูกโค่นราบเป็นหน้ากลอง พื้นที่กลายเป็น “เขาหัวโล้น” ไร้เงาไม้ยืนต้น ด้าน นายบุญธรรม ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า พื้นที่ทั้งหมดในหมู่บ้านรวมถึงจุดที่เกิดเหตุอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามระเบียบให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ทำกินได้ ห้ามแพ้วถาง ตัดไม้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 1 ระยอง 1 (รย.1) สังกัดกรมป่าไม้ ซึ่งรับผิดชอบดูแลป่าทั่วทั้ง อ.เขาชะเมาและอ.แกลง ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ […]

ชาวบ้านให้กำลังใจทหาร เชื่อพื้นที่อ้างสิทธิเป็นของไทย

อุบลราชธานี 3 มิ.ย.- ชาวบ้านแปดอุ้ม ยอมรับกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย นางดำ วัย 66 ปี ชาวบ้านแปดอุ้ม ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ยอมรับตอนนี้ครอบครัวอยู่อย่างกังวลกับสถานการณ์ แต่ยังอุ่นใจที่ทหารเข้ามาในพื้นที่ปกป้องรักษาอธิปไตยไทย พร้อมเล่าอีกว่าเมื่อก่อนเคยขึ้นไปด้านบน เห็นคูเลตของกัมพูชาขยับเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งที่แนวเขตแบ่งตามแนวสันปันน้ำไทย-กัมพูชา ส่วนจุดปะทะล่าสุดยืนยันว่าเป็นของไทย ชาวบ้านรู้กันตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นทวดทำเกษตรทำไร่บริเวณนั้น ตนเองก็เคยขึ้นไปทำไร่กันสนุกสนานในพื้นที่นั้นจนถึงเนิน 500 นางดำ ยังเล่าต่อไปว่า เดิมทีหมู่บ้านแปดอุ้ม ไม่ได้อยู่ด้านล่าง แต่อยู่บนเขา ใกล้จุดปะทะ แต่ในปี 2520 คอมมิวนิสต์เวียดนามและเขมรแดงเป็นพันธมิตรกันสู้รบกับรัฐบาลกัมพูชา ทางเขมรแดงได้เข้ามาต้อนชาวบ้านแปดอุ้มไปเป็นทหาร ส่วนบ้านแปดอุ้มปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่ทางการไทยจัดสรรให้ชาวบ้านใหม่ในปี 2522 โดยให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านบนลงมาอยู่ด้านล่าง ด้านนายทอน อายุ 86 ปี ชาวบ้านแปดอุ้มอีกคน บอกว่า ติดตามข่าวสารทางทหาร ทราบข่าวลือของแม่ทัพภาคที่ 2 จึงอยากให้กำลังใจทหาร ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาลูกหลานทหารไทย .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ​ชี้​ต้องยึดสันติวิธี ปมไทย-กัมพูชา

สนามหลวง 3 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ​ชี้​ปมไทย-กัมพูชา ต้องยึดสันติวิธี หลีกเลี่ยงความรุนแรง​ คำนึงถึงชีวิต-​ความสูญเสีย ขณะที่ทหารพร้อมยึดมั่นรักษาอธิปไตย ส่วนกัมพูชาเตรียมนำเรื่องขึ้นศาลโลก ให้เป็นเรื่องของการเจรจา ย้ำ​ใช้สงคราม​เป็นมาตรการสุด​ท้าย นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง จุดยืนของไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่า​ ตนได้บอกไปหลายครั้งแล้ว คือยึดมั่นแนวทางแก้ไขแบบสันติวิธี พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง และยึดมั่นในการรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประชาชน ที่ผ่านมาเราได้พยายามแสดงจุดยืนเหล่านี้ และพยายามหาช่องทางในการเจรจา เพื่อหาทางยุติได้อย่างสงบ ขณะเดียวกันเราก็ไม่ประมาท มีการประสานงานกันอย่างทั่วถึงตลอดเวลากับทางกองทัพ กองทัพภาค ผู้บัญชาการทหารบก​ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ สิ่งที่เราทำขณะนี้ในแง่ของกองทัพ เราเตรียมความพร้อม เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ เท่าที่ตรวจดูในรายละเอียดต่างๆ มีการวางกำลังที่สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศได้โดยมั่นใจ และกองทัพก็ได้มีการเตรียมการอย่างเหมาะสม ไม่มีความบกพร่อง ส่วนเรื่องของการเจรจา​ นายภูมิธรรม​ ยืนยันว่า​ เราได้มีการพูดคุยกันมาตลอด ทั้งกระทรวงกลาโหม​ กองทัพ​ และกระทรวงการต่างประเทศ ว่าสิ่งที่เราอยากจะแก้ไขปัญหา ต้องคุยกันภายในให้เป็นเอกภาพ เมื่อวานนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดทั้งวัน “สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะใช้มาตรการในการใช้ความรุนแรง หรือสงคราม จะเป็นมาตรการสุดท้าย […]