จุฬาฯ 21มิ.ย.-นักวิจัยด้านขยะพิษแสดงความพอใจการแก้ปัญหาของรัฐบาลแต่มองว่ายังไม่พอ เพราะเป็นมาตรการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ต้องปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายที่เป็นปัญหาจึงจะแก้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
น.ส.เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศน ซึ่งทำงานวิจัยด้านขยะพิษและขยะอิเล็กทรอนิกส์มาอย่างต่อเนื่อง แสดงความพอใจ มาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ขยะสารพิษ หรือพลาสติกของรัฐบาลที่มีมาตรการจะระงับการนำเข้าขยะแบบไม่ถูกต้องตามอนุสัญญาบรัสเซลส์ หากตรวจสอบพบว่าสำแดงเท็จ ให้ผลักดันออกนอกประเทศไปยังประเทศ ต้นทางหรือประเทศที่ส่งออกโดยเคร่งครัดและดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด ขยะอิเล็กทรอนิกส์ สารพิษ ที่ถูกนำเข้าไปยังโรงงานไม่ถูกต้องตามใบอนุญาต ให้ส่งกลับไปยังโรงงานที่ได้รับอนุญาตหรือนำไปกำจัดให้ถูกต้องและให้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดกฎหมาย แต่เห็นว่ามาตรการที่ออกมายังไม่เพียงพอและน้อยไปในบางส่วน สามารถแก้ได้เฉพาะปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาอาจกลับมารุนแรงได้อีก หากไม่มีการตรวจสอบต่อเนื่อง
โดยเสนอว่าหากให้แก้ได้อย่างยั่งยืน ต้องมีการรื้อโครงสร้างกฎหมาย โดยยกเลิกหรือแก้ไขประกาศกฎกระทรวง กฎหมายบางฉบับ ซึ่งอันดับแรกควรต้องแก้ไขร่าง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา แล้วนำกลับมายกร่างใหม่ที่กำหนดโครงสร้างอำนาจหน้าที่ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยให้คงไว้ในอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมและอนุญาตตั้งโรงงานอุตสาหกรรม ควบคุมการนำเข้าและส่งออกวัตถุดิบ และให้โอนอำนาจหน้าที่ดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษทั้งในโรงงานและพื้นที่รอบโรงงานไปอยู่ ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะทุกวันนี้อำนาจหน้าที่มันทับซ้อนกัน ทำให้เกิดความไม่สมดุลในการบังคับใช้กฎหมาย ทำให้เกิดช่องว่างและเกิดความไม่โปร่งใส
นอกจากนี้ควรมีมาตรการให้โรงงานที่เกี่ยวข้องกับการคัดแยกฝังกลบและแปรรูปของเสียโดยเฉพาะของเสียอันตราย มีการจัดทำผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและต่อสุขภาพ เพื่อเป็นข้อมูลในการประเมินผลกระทบการก่ออันตรายจากสารพิษในวัตถุดิบของโรงานที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน
ทั้งนี้ เห็นว่าสิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนและสามารถทำได้เลยคือการสั่งห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรัฐบาลกำลังจะทำอยู่ แต่ต้องเพิ่มรายละเอียดมากไปกว่านั้นคือการห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์บางรายการที่มีส่วน ผสมของสารอันตราย เช่น ขยะพลาสติกพีวีซี เป็นต้น ซึ่งต้องห้ามนำเข้าด้วย เนื่องจากขยะเหล่านี้มีการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมและมีผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพและเร่งสอบสวนข้าราชการที่รู้เห้นเป็นใจกระทำผิดนำ เข้าและจัดการขยะพิษโดยเร็ว ทั้งนี้พร้อมให้ความร่วมมือและให้กำลังใจรัฐบาลในการแก้ปัญหานี้อย่างเต็มที่ เพราะไม่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นถังทิ้งขยะพิษของโลก.-สำนักข่าวไทย