กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – บีกริมมั่นใจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์เวียดนามเสริมความแข็งแกร่ง ด้านบีซีพีจีซื้อกิจการพลังงานลมในภาคใต้
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายเหงียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความร่วมมือการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 420 เมกะวัตต์ ขนาดกำลังการผลิตใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยมีกำหนดการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 2562
บีกริม ระบุก่อนหน้านี้ว่าโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนกับบริษัท Xuang Cau Co.,Ltd. ซึ่งจะส่งผลให้แนวโน้มผลการดำเนินงานของ BGRIM ในช่วง 1-2 ปี ข้างหน้าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร เนื่องจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากโรงไฟฟ้าต่างประเทศเพิ่มเป็นร้อยละ 30 ภายในปี 2565 จากปัจจุบัน ร้อยละ 6 และตั้งเป้าสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มเป็นร้อยละ 30 จากเดิมที่ ร้อยละ 12 ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 65 ในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นการเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ และกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เข้าซื้อกิจการของบริษัท ลมลิกอร์ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ ที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2561 ด้วยการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม โดยมีวงเงินลงทุนรวมค่าหุ้นและค่าก่อสร้างไม่เกิน 825 ล้านบาท โครงการดังกล่าวขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จและเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในสิ้นปี 2561.- สำนักข่าวไทย