“สมคิด” ย้ำ ความสำคัญของความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาค ACMECS

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.-  “สมคิด” ปาฐกถาในการประชุม ACMECS CEO Forum ย้ำ ความสำคัญของความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาค ที่จะนำไปสู่การรับมือความท้าทายที่มีประสิทธิภาพ ระบุ ภาคเอกชนจะต้องเป็นพระเอกในการขับเคลื่อน 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ   “ทิศทางในอนาคต การส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของสมาชิกลุ่มน้ำโขง” ในการประชุม ACMECS CEO Forum วันนี้ (15 มิ.ย.) ว่า ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา  เอเชียได้กลายเป็นจุดหมายใหม่ของเศรษฐกิจโลก  การเติบโตหลักๆ มาจาก จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย แต่ปัจจุบันประเทศในกลุ่มแม่น้ำอิรวดี เจ้าพระยา และเเม่น้ำโขง มีบทบาทมากขึ้น   มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยสูงถึง ร้อยละ 6-8 ต่อปี ถือว่าสูงสุดในภูมิภาคอาเซียน

“ประเทศไทยก็มีพัฒนาการการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์ทางการเมืองที่สงบ  จึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการร่วมมือของกลุ่ม ACMECS  เพื่อสร้างความเจริญเติบโตระหว่างประเทศมากขึ้น และเชื่อมต่อไปยังประเทศในภูมิภาคอื่นๆ” นายสมคิด กล่าว


อย่างไรก็ตาม  นายสมคิด กล่าวว่า ประเทศในกลุ่ม ACMECS ยังคงต้องเผชิญกับความท้ายทายที่สำคัญอย่างความเหลื่อมล้ำ และความสามารถในการแข่งขันภายในสมาชิกประเทศ  รวมถึง กระแสการปกป้องทางการค้าจากประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ และ  เทรนด์ของดิจิทัลใหม่ๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนภูมิทัศน์ของเศรษฐกิจ   ซึ่งแต่ละประเทศต่างมีนโยบาย และมาตรการในการรับมือที่แตกต่างกัน  แต่การที่จะรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องมีความเชื่อมโยงกันละกัน 

นายสมคิด กล่าวว่า การประชุมครั้งล่าสุดที่ฮานอย ประเทศเวียดนาม ได้มีการออกแผนแม่บทระยะ 5 ปี ที่จะขับเคลื่อนร่วมกันระหว่างอนุภูมิภาค ด้วยการเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ เชื่อมโยงโดยสอดรับกันทางยุทธศาสตร์ แบบ Win – Win   และการสนับสนุนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยจะผลักดันให้เกิดเป็นกองทุน ACMECS TRUST FUND  ขึ้น เพื่อให้เป็นตัวกลางที่ทำให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน 

นายสมคิด กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังจะเกิดความร่วมมือกันทางด้านภาคการท่องเที่ยว ที่เป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผ่านการกระจายนักเดินทางต่างชาติที่เข้ามาไทย ถึง 35 ล้านคน ซึ่งได้สร้างรายได้มากถึงร้อยละ 15-20 ต่อปี หรือคิดเป็นร้อยละ20 ของอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ให้ได้เดินทางไปยังภูมิภาคอื่นๆ ในกลุ่มสมาชิกมากขึ้น ไม่กระจุกตัวอยู่แต่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง ด้วยการกำหนดจุดท่องเที่ยว หรือ landmark ร่วมกัน และพัฒนาเส้นทางคมนาคมให้มีความเชื่อมโยง


“ความร่วมมือในครั้งนี้ ภาคเอกชนจะต้องเป็นพระเอกในการขับเคลื่อน ซึ่งจะช่วยให้เกิดการป้องกันอุปสรรคจากการเคลื่อนย้ายแหล่งเงินทุน และกำลังแรงงาน อันจะนำไปสู่ One Single ACMECS จนขยายผลเกิดเป็น One Asean ซึ่งเป็นจุดหมายสูงสุดในการก่อตั้งประชาคม และประชาชนทุกภาคส่วนจะได้รับประโยชน์สูงสุด” นายสมคิด กล่าว         .- สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

หนึ่งในผู้ต้องหาฆ่า 3 ศพรับสารภาพ

คดีฆาตกรรม 3 ศพ พ่อแม่ลูก จ.กำแพงเพชร ตำรวจคุมตัวผู้ต้องสงสัยสอบอีกราย หลังรวบตัวนายโน้ต เป็นคนแรก ล่าสุดรับสารภาพแล้ว 1 ราย จ่อคุมตัวค้นหาอาวุธปืนบีบีกันที่ใช้ก่อเหตุ

ประชาชนแน่น ร่วมพิธีอัญเชิญ “พระเขี้ยวแก้ว” ออกจากสนามหลวง

เคลื่อนขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ออกจากสนามหลวงแล้ว ประชาชนร่วมพิธีจำนวนมาก ขณะสถิติผู้ร่วมสักการะ ตลอด 73 วัน กว่า 3 ล้านคน

“เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นถึงหนาว กทม.-ตะวันออก อากาศร้อน

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือและอีสาน อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคตะวันออก อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวันและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

คู่รักจูงมือจดทะเบียนสมรสวันวาเลนไทน์ สูงสุดรอบ 3 ปี

3,296 คู่รักจูงมือจดทะเบียนสมรสในวันวาเลนไทน์ สูงสุดในรอบ 3 ปี LGBTQI+ คึกคักจดทะเบียนรัก 527 คู่ ปีนี้เขตบางรักยังคงครองแชมป์